บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) โชว์งบไตรมาส 2/63 กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 354% ขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238% YOY ขานรับออเดอร์พุ่งอานิสงส์โควิด-19 ระบาด เร่งผุดไลน์การผลิตโปรดักส์ใหม่ "ซอฟท์เจล"และ"โพรไบโอติกส์" ตอบโจทย์ดีมานด์ทะลักเทรนด์รักสุขภาพช่วงครึ่งปีหลัง
นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด(มหาชน)หรือ DOD เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 76 ล้านบาทและกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 354% และ 329% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทฯมีรายได้จากการขาย 772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 247 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 103 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 103 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 77% และ 75%ตามลำดับเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้บริษัทฯสามารถเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ โดยมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และเพิ่มขึ้น 329% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้(QoQ) และมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เติบโต 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ)”
“ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตอาหารเสริม เพื่อสุขภาพส่งสัญญาณเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นตัวเเปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตสำอางยังได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้ากลุ่มสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครือข่ายก็มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้ขาดทุนลดลงเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา”
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า จะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่มีศักยภาพมีออเดอร์ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดไลน์การผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอกและผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องได้ใช้อัตราการผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เดินหน้าขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบซอฟท์เจล และผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า จะสามารถเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2563 ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้พร้อมจะรับกับคำสั่งซื้อที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนธุรกิจเครือข่าย เริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ