นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.2562-ก.ย.2563) ว่า สามารถจัดเก็บได้ 5.46 แสนล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายจัดเก็บที่ 5.8 แสนล้านบาท แต่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย หลังประเมินผลกระทบจากโควิด-19 จะจัดเก็บได้ 5.01 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงคาดว่าในปีงบประมาณ 2564 จะจัดเก็บได้เป้าหมายที่ 5.3 แสนล้านบาท ซึ่งปรับลดลงจากเดิมที่ 6.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้การจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ส่วนใหญ่มาจากการจัดเก็บภาษี สุรา เบียร์ และเครื่องดื่ม ที่ไม่ต่ำกว่าคาดการณ์มากเกินไป เนื่องจากมีการเก็บภาษีจากโรงงาน และของไปค้างที่สต็อก รวมทั้ง ช่วงโควิด ประชาชนให้ความสนใจดื่มน้ำผสมวิตามินเป็นอย่างมาก
โดย ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 8 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 6 พันล้านบาท ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 6.12 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 300 ล้านบาท และภาษีเครื่องดื่มจัดเก็บได้ 2.5 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.67%
ส่วนภาษีน้ำมันเก็บได้ 2.21 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 7% และภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 8.4 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 5 หมื่นล้านบาท
นายพชร กล่าวว่า ในส่วนของงานส่งต่อให้อธิบดีคนใหม่สานต่อ คือการขยายฐานภาษี ปรับปรุงการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพ ส่วนภาษีตัวใหม่ นั้น ได้พิจารณาไว้หมดแล้ว จึงขึ้นอยู่กับอธิบดีคนใหม่จะเป็นผู้ตัดสินใจต่อ ทั้งภาษีความเค็ม ภาษีเบียร์ 0% รวมทั้งภาษีอื่นๆ เช่น เครื่องดื่มผสมสารสกัดจากกัญชา(CBD) ที่มีแนวโน้มเป็นโอกาสในการขยายการจัดเก็บของกรมได้ในอนาคต แต่ก็ต้องหารือกับกระทรวงสาธารณสุขให้รอบด้านก่อน