วันนี้เป็นวันแรก ของการให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ กับร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยรัฐบาลจะโอนเงินเข้าระบบให้กับผู้ใช้สิทธิ์
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้โอนวงเงิน 3,000 บาท ให้ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านมาการตรวจสอบแล้วเสร็จกว่า 6.6 ล้านคน เข้าแอพพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมกว่า 3.1 แสนแห่ง โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของยอดซื้อ แต่สูงสุดไม่เกินวันละ 150 บาท โดยซื้อได้ตั้งแต่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.นี้ ช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. แต่ห้ามซื้อสินค้าต้องห้าม อาทิ เหล้า เบียร์ บุหรี่ ลอตเตอรี่ และการเติมน้ำมัน เป็นต้น
สำหรับยอดลงทะเบียนล่าสุด ถึงวันที่ 23 ต.ค.2663 มีประชาชนลงทะเบียนแล้วจำนวน 7.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบแล้ว 6.6 ล้านคน ยังเหลือสิทธิให้ประชาชนลงทะเบียนได้อีกกว่า 3 ล้านคน โดยผู้สนใจลงทะเบียนได้ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ต่อเนื่องทุกวัน ช่วงเวลา 06.00 - 23.00 น. จนกว่าจะครบ 10 ล้านคน
ขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งแล้วกว่า 310,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตร้านค้าที่เข้าร่วมได้จากสัญลักษณ์โครงการคนละครึ่งที่หน้าร้านค้า หรือค้นหารายชื่อและที่ตั้งได้จากเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
ส่วนที่มีการระบุว่ามีร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมน้อยนั้น ตอนนี้มีร้านหาบเร่แผงลอยเข้าร่วมแล้ว 5หมื่นกว่าราย ซึ่งกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย กำลังเร่งประชาสัมพันธ์รับสมัครผู้ประกอบการราที่สนใจ โดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายมากที่สุด โดยสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือสาขาธนาคารกรุงไทย
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า โครงการช้อปดีมีคืนจะเริ่มวันแรก 23 ต.ค.นี้ จนสิ้นสุด 31 ธ.ค.2563 โดยผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องไม่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า กับร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้องมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารอบปี 2563 ได้สูงสุด 30,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิหักลดหย่อนจะต้องมีการเก็บใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยกรมฯคาดว่าจากมาตรการนี้จะทำให้จัดเก็บภาษี ลดลงไปถึง 19,000 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้น