วันนี้ 24 ต.ค.โครงการคนละครึ่ง ยังเปิดให้ประชาชนรับสิทธิ ลงทะเบียนคนละครึ่ง บนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ผ่านไปแล้ว 8 วัน ประชาชนได้รับสิทธิไปแล้วจำนวนกว่า 7 ล้านคน ยังคงเหลือสิทธิอีกว่า 2 ล้านคน
สำหรับวัตถุประสงค์ ลงทะเบียนคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดขั้นตอนเติมเงิน “G-Wallet” อย่างละเอียดก่อนไปช้อปสินค้าในโครงการคนละครึ่ง
“คนละครึ่ง” โหมโรงแล้ว ผู้รับสิทธิ 6.4 ล้านคนเตรียมใช้จ่ายผ่านแอปเป๋าตังได้เลย
ช้อป “คนละครึ่ง” โรบินสันผนึก 200 ร้านค้า อัดโปรลดสูงสุด 50%
www.คนละครึ่ง.com รีบลงด่วนอย่าช้าเหลือสิทธิไม่ถึง 3 ล้านสิทธิแล้ว
ดูเหมือนว่าเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) เป็นวันแรกที่ให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยใน โครงการคนละครึ่ง ภายหลังจากมีผู้ได้รับสิทธิ 6.6 ล้านคน แต่บรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะเมื่อดูตัวเลขจากกระทรวงการคลังได้รายงาน ปรากฏว่ามีประชาชนจับจ่ายใช้สอยไปแล้ว 60 ล้านบาทเท่านั้น
เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศการใช้จ่าย คนละครึ่ง ไม่คึกคักเนื่องจากจำนวนเงินที่เติมให้กับผู้ได้รับสิทธิ 150 บาทซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่คุ้มในหลายๆ ด้าน ทั้งการเดินทางไปยังร้านค้าที่ร่วมโครงการ และ ข้อจำกัดของร้านค้าบางราย โดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอย ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของเทคโนโลยี
ต่อเรื่องนี้ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า การจับจ่ายซื้อสินค้าของประชาชนใน โครงการวันละครึ่งวันแรก ยังไม่คึกคัก และจากการสอบถามผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯไม่สนใจใช้จ่าย เพราะเงินที่ใช้ได้ต่อวัน 150 บาทน้อยเกินไป ทำให้เสียเวลาในการเดินทางเข้ามา จึงอยากให้มีการเปลี่ยนเงื่อนไขเพิ่มเงินใช้จ่ายต่อวันเป็นอย่างน้อย 500 บาท ขณะเดียวกันผู้ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง บางส่วนยังไม่มีเงินที่จะเติมเข้ามาในแอพฯ เพราะตรงกับช่วงกลางเดือนค่อนปลายเดือน ทำให้เหลือเงินใช้จ่ายน้อย
ขณะที่ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านโครงการคนละครึ่งในวันแรก 23 ต.ค.63 เปนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยยอดตั้งแต่ 06.00-14.00 น.มียอดการใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชันเป๋าตังไปแล้วกว่า 60 ล้านบาท ณ เวลา 17.00 น.โดยคิดเป็นสัดส่วนพบว่าคนได้นำเงินตัวเองใช้จ่ายเงินมากกว่าเงินจากรัฐที่ 51% ต่อ 49%
อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังไม่กังวลว่าจะมีการใช้จ่ายน้อย เพราะเพิ่งเริ่มเป็นวันแรก ยังเหลือให้ใช้จ่ายอีก 69 วัน อีกทั้งยังตรงกับวันหยุดราชการ แต่เชื่อว่าเมื่อถึงวันจันทร์ซึ่งตรงกับวันทำงานจะมียอดการใช้จ่ายเพิ่ม เพราะร้านค้าส่วนมากจะอยู่แถวที่ทำงาน จึงน่าจะมีการใช้สิทธิคนละครึ่งซื้ออาหารเช้า อาหารกลางวันเพื่อลดค่าครองชีพเพิ่มขึ้นได้
ส่วนกรณีมี ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งไม่มากเพียง 317,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นร้านหาเร่ แผงลอยกว่า 5 หมื่นราย ล่าสุดคลังได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยเหลือ โดยจะส่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศลงพื้นที่เพื่อเชิญชวนพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเข้าโครงการ พร้อมกับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยยืนยันตัวตนร้านค้าที่เข้าร่วมได้ โดยไม่ต้องการตรวจสอบจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งจะช่วยให้มีร้านค้าเข้าร่วมได้มากขึ้น พร้อมยืนยันว่าการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลภาษีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรีดภาษีย้อนหลัง