นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ไม่ใช้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่งหลังจากครบกำหนด 14 วันที่ต้องใช้จ่ายเงินในโครงการแล้วประมาณ 1 ล้านคน จากทั้งสิ้น 10 ล้านคน และคาดว่าจำนวนผู้ไม่ใช้สิทธิ์น่าจะมีเพิ่มขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้กระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบ 2 ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกันยังยืนยันว่าระบบการลงทะเบียนรอบใหม่ พร้อมสามารถจะรองรับปริมาณคนที่จะลงทะเบียนได้ถึง 20 ล้านคนต่อวันแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีร้านค้าทุจริตโครงการคนละครึ่ง นายผยง ระบุว่า ธนาคารได้ให้ข้อมูลกับกระทรวงการคลังว่าควรเพิ่มระยะเวลาในการโอนเงินให้กับร้านค้า เพื่อทำการตรวจสอบร้านค้าทุกร้านก่อนที่จะจ่ายเงินคืนให้ร้านค้า จากปกติจะดำเนินการคืนภายใน 1 วัน หลังจากมียอดใช้จ่าย เพราะมองว่า รัฐบาลมีระบบที่จะสามารถตรวจสอบว่าร้านค้ากระทำการทุจริตหรือไม่ ซึ่งควรจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันในการตรวจสอบ ก่อนจ่ายเงินให้กับร้านค้า
“ความกังวลว่าร้านค้าจะไม่เข้าโครงการอีกนั้น หากร้านค้าสามารถอยู่ได้ ไม่จำเป็นที่รัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ เพราะไม่ใช่โครงการแจกเงิน แต่เป็นเม็ดเงินที่มาจากภาษีประชาชน ที่ควรจะให้เม็ดเงินจากโครงการช่วยเหลือกลุ่มคนที่เดือดร้อนได้จริงและโปร่งใสด้วย”นายผยง กล่าว
ด้านนายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย ยอมรับว่า ทุกโครงการของรัฐ จะมีผู้ไม่หวังดีต้องการจะเข้ามาทุจริต ซึ่งระบบของรัฐและธนาคารสามารถที่จะตรวจสอบได้ และเมื่อตรวจพบจะถูกบล็อคไว้ทันที ซึ่งหากจะต้องการเพิ่มการตรวจสอบ บางครั้งต้องใช้เวลาจาก 1 วัน เป็น 3-5 วัน อาจกระทบบางร้านค้าที่ต้องการรอเงินส่วนนี้
“คงถูกบ่นจากร้านค้าบ้าง เพราะต้องการเงินเร็วที่สุด แต่การปล่อยเงินให้เร็วที่สุดย่อมจะส่งผลความเสียหายแก่รัฐ รัฐคงต้องดูอยู่จะจ่ายช้าหน่อยดีไหม 3-5 วัน เพราะตอนนี้ก็มีอยู่ในภาคใต้ ภาคเหนือ เพราะดาต้ามันฟ้องหมด”นายไกรฤทธิ์ กล่าว