เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า เมื่อวานนี้( 26 พ.ย. 63 ) ตนได้รับเชิญไปเป็นอาจารย์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และส่วนหนึ่งก็ได้มีการพูดถึงโครงการ ‘คนละครึ่ง’ ของรัฐบาล มีนักศึกษาถามคำถามว่า จุดด้อยของนโยบายนี้คืออะไร และนโยบายนี้เหมาะสมหรือไม่ในเมื่อต้องใช้เงินกู้ ซึ่งมองว่าเป็นคำถามที่ดี เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องถาม
"ในมุมมองส่วนตัวโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจตามหน้าที่ของรัฐบาล โดยที่มีการออกแบบมาให้ผู้ได้ประโยชน์เป็นร้านค้าขนาดเล็ก (ร้านใหญ่เข้าร่วมโครงการไม่ได้) และเป็นสิทธิที่ให้กับประชาชนทั่วไป ผลของโครงการคือกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ "นายกรณ์ กล่าวและว่า
ส่วนจุดด้อยก็คือประชาชนหลายคนเข้าไม่ถึงสิทธิ เพราะขึ้นทะเบียนไม่ทัน และคนยากจนจริงๆ หลายคนไม่มีสมาร์ทโฟนจึงถูกตัดสิทธิโดยปริยาย ส่วนร้านค้าหลายร้านบอกผมว่าเขาไม่เข้าโครงการนี้เพราะเขาต้องหมุนเงินทุกวัน รอการโอนเงินเข้าบัญชีข้ามวันไม่ได้ ประเด็นเหล่านี้ต้องช่วยกันคิดว่าจะมีวิธีอุดช่องว่างอย่างไร
นายกรณ์กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องการใช้เงินกู้ผมอธิบายว่า งบประมาณโดยรวมเป็นงบขาดดุล ดังนั้นตามจริงก็คือทุกเรื่องที่รัฐบาลทำก็คือใช้เงินกู้และเงินภาษีคละกันไป เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นการใช้เงินกู้ผมมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญ
“สิ่งที่สำคัญก็คือเป็นการใช้เงินที่คุ้มค่าหรือไม่ รั่วไหลหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ผมว่าคุ้มกว่าการใช้เงินในหลายโครงการของรัฐบาลและราชการ การรั่วไหลก็น้อยมาก เพราะเงินไม่ผ่านมือนักการเมือง ราชการ หรือคนกลาง ส่วนคำถามว่าเป็นธรรมหรือไม่นั้น ก็เป็นธรรมมากกว่าอีกหลายโครงการ (ตามเหตุผลที่อธิบายแล้ว) แต่ยังไม่ 100%”
นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากนั้นการพัฒนาแอปฯ ‘เป๋าตัง’ นี้สามารถนำไปขยายผลได้อีกหลายเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมไปถึงการสร้าง e-commerce platform ของไทย ที่จะช่วยให้เรามีช่องทางการนำสินค้าของประชาชนสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง