นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า การดำเนินงานในธุรกิจทุกภาคส่วนในปี 64 จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วกว่า 100 เมกะวัตต์ ประกอบกับมีงานรับเหมาก่อสร้าง (EPC) ที่มีอยู่ในมือกว่า 8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 3 ปี โดยยังไม่นับรวมงานประมูลที่จะทยอยเพิ่มเข้ามาในปี 64
“สำหรับไตรมาส 4/63 คาดว่าจะมีโครงการโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามเข้ามาเพิ่มอีก 1 โครงการ กำลังการผลิตขนาด 50 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีจำนวนเมกะวัตต์สะสมเพิ่มขึ้นตามนโยบายของบริษัทที่ตั้งไว้ ที่สำคัญทำให้มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สินและผลกำไรเพิ่มขึ้น โดยปี 63 บริษัทฯ ใช้งบลงทุนไปแล้วประมาณ 4 พันล้านบาท ซึ่งในแต่ละปีบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 4 -5 พันล้านบาท และหากโครงการเวียดนามสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในไตรมาส 4 นี้ จะทำให้ปี 63 บริษัทฯ ใช้งบลงทุนกว่า 5 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ มั่นใจรายได้และกำไรทั้งปีจะเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้”
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจพลังงานทดแทนและผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี และมีความมั่นคงมากขึ้นจากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ และจากการที่กลุ่มบริษัทฯ มีจุดยืนในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนั้นกลุ่มบริษัทฯ จึงมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานสะอาดให้ตอบเทรนด์การใช้พลังงานของโลกในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GUNKUL ควัก 1.1 พันลบ.ซื้อหุ้นคืน ครั้งที่ 2 ไม่เกิน 440 ล้านหุ้น
บอร์ด “GUNKUL” ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อยรุกตลาดอุปกรณ์พลังงาน
โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านพลังงานที่ล้ำสมัยมาผสานเข้ากับระบบบริหารจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และยั่งยืนยิ่งขึ้น จากพลังงานทั่วโลกกำลังก้าวสู่ยุคเอนเนอร์จี ดิสรัปชัน โดยผ่านการดำเนินงานภายใต้ Gunkul Spectrum เพื่อที่จะเป็น Thailand’s 1st energy trendsetter ร่วมกับ partner ซึ่งจะเห็นความชัดเจนภายในปี 64