นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) ได้ให้ความเห็นว่า ในปัจจุบันยังมั่นใจในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ ประกอบกับมาตรการทางเศรษฐกิจและการคลังที่ยังคงทยอยออกมาซึ่งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มดูดีขึ้นอย่างชัดเจน ถึงแม้มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Valuation) จะค่อนข้างสูง ทำให้อาจจะมีความผันผวนระยะสั้นอยู่บ้าง แต่พบว่า earning yield gap ซึ่งเป็นส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาดหุ้นกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ที่เรามักใช้ในการพิจารณาความน่าสนใจของตลาดหุ้นยังคงสูงกว่าช่วงวิกฤติปี 2000 และ ปี 2008 ประกอบกับการประกาศผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนใน S&P500 ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้โดยภาพรวมแล้วหุ้นสหรัฐฯยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
นอกจากนั้นยังมีปัจจัยสำคัญ คือ ล่าสุดทางนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ประกาศว่ารัฐฯบาลสหรัฐฯจะอัดฉีดเงินช่วยเหลือเศรษฐกิจต่อไป และให้ความเชื่อมั่นว่าการจ้างงานในสหรัฐฯจะกลับมาขยายตัวได้เต็มที่อีกครั้ง หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย
“ในสถานการณ์เช่นนี้ เราเชื่อว่าจะสร้างผลเชิงบวกให้กับหุ้นสหรัฐฯเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นบลูชิพ เพราะหุ้นกลุ่มนี้มักจะเป็นหุ้นที่เป็นผู้นำในตลาดโดยกินส่วนแบ่งการตลาดในสัดส่วนที่สูง ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นหุ้นที่เรารู้จักกันดี ทำให้ผู้ลงทุนสามารถมั่นใจได้ในการลงทุนในระยะยาว โดยปัจจุบันทาง TMBAM Eastspring ก็มีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้โดยตรงนั่นก็คือ TMBUSBLUECHIP”
สำหรับ กองทุนเปิดทหารไทย US Blue Chip Equity หรือ TMBUSBLUECHIP มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก คือ กองทุน T. Rowe Price Funds-US Equity Fund เพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนจะใช้นโยบายการบริหารเชิงรุก (Active Management) และเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทคุณภาพขนาดใหญ่ที่ตั้งรกรากอยู่หรือมีธุรกิจหลักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหุ้นที่จะเข้าเงื่อนไขการเป็นหุ้นกลุ่มบลูชิฟนั้น จะพิจารณาจากผลประกอบการ มีการเติบโตที่ต่อเนื่อง และที่สำคัญได้มีการกระจายการลงทุนไปในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อลดความเสี่ยงจากการกระจุกของการลงทุนที่อาจมากเกินไป
กองทุนนี้เป็นอีกกองที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกา โดยมีการจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 โดยผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงวันที่ 29 มกราคม 2564 นั้น กองทุน TMBUSBLUECHIP ทำผลตอบแทนได้ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี และจัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 6.77%, 12.49%, 24.22%, 45.84% และ 115.22% ตามลำดับ Benchmark (ดัชนี S&P 500 Net Total Return USD) 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี และจัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 12.67%, 14.95%, 15.56%, 37.93% และ 99.19% ตามลำดับ (แหล่งที่มา Morningstar, 29 มกราคม 2564)