การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในหลายประเทศ ทำให้มีแรงซื้อทองคำกลับมาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง รวมถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงในรอบกว่า 4 เดือนที่ 1,912.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่มีความชัดเจนเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปีก่อน ทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น และย้ายการลงทุนออกจากทองคำ ส่งผลทองคำถูกมองว่า อยู่ในช่วงขาลง หลังราคาไหลลงต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
นายวรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการสมาคมค้าทองคำ และกรรมการบริษัท ห้างขายทอง จินฮั้วเฮง จำกัดเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำสิ้นปี 2564 ยังต้องติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อที่ตลาดโลกกังวล โดยเฉพาะทิศทางการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐ “นายโจ ไบเดน” หากยังมีการอัดฉีดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำปรับขึ้นได้ไกล อาจจะสูงกว่านิวไฮเดิมที่ระดับ 2,070 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นราคาทองคำปีก่อนนั้น ที่เกิดจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอย ประกอบกับธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อ พยุงเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับไตรมาสสองของปีนี้ ที่เริ่มเห็น ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง หลังจากสหรัฐส่งสัญญาณอัดฉีดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดคาดว่า แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์จะร่วง แถมเฟดส่งสัญญาณจะไม่ปรับทิศดอกเบี้ยนโยบาย
“เฟดส่งสัญญาณจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่นักลงทุนในตลาดมองสวนทางเฟด บวกกับทางการจีนไม่สนับสนุนการลงทุนในบิตคอยน์ ส่งให้ราคาบิตคอยน์ร่วงในต้นปีนี้ สลับกับราคาทองคำเริ่มฟื้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะนักลงทุนหนีออกจากตลาดบิตคอยน์กลับมาทองคำ จริงๆ ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน การลงทุนในบิตคอยน์บูมมากจน มีคนที่เคยลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยโยกเงินไปลงทุนในบิตคอยน์ตั้งแต่ปลายปีก่อนต่อเนื่องถึงช่วงรอยต่อในปี 2564” นายวรชัยกล่าว
ส่วนความต้องการทองคำรูปพรรณในประเทศช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ สัญญาณความต้องการดีขึ้นประมาณ 10% เพราะปลายปีก่อนราคาทองคำขึ้นไปสูงที่ 27,000-28,000 บาทและ 30,000 บาท แต่ต้นปีนี้อยู่ที่ 24,000-26,000 บาท ซึ่งกลุ่มที่ทยอยขายทองคำช่วงราคาสูงๆปีก่อน ได้กลับเข้ามาซื้อคืน รวมทั้งกลุ่มลงทุนในทองคำแท่งด้วย ซึ่งช่วงม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายบวกบ้าง แต่เดือนเมษายนและพฤษภาคมหลังสงกรานต์ ยอดขายทองคำติดลบ บางวันแทบจะไม่มียอดขาย
“ส่วนตัวมองแนวโน้มราคาทองช่วงที่เหลือ Gold Spot โอกาสทำนิวไฮ 1,980- 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์และราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 29,100 บาท และราคาทองคำปรับเพิ่มรอบใหม่หลังไตรมาส 2 เมื่อราคาทองคำอยู่ที่ 27,000 บาท ทำให้นักลงทุนที่เคยติดดอย ได้จังหวะกลับเข้ามาขายทองคำเพื่อปลดดอย”
นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ฮั่วเซ่งเฮงกล่าวว่า ต้นปีตลาดกลับมาฟื้นตัว โดยมีความหวังการกระจายวัคซีนโควิด-19 สามารถที่จะควบคุมการติดเชื้อของโควิด-19ได้ ภาวะเศรษฐกิจน่าจะกลับมาฟื้นตัวทำให้ราคาทองคำ (Spot) ผลตอบแทนยังติดลบ 1.5% แต่ในประเทศบวก 3.5% สาเหตุมาจากเงินบาทอ่อนค่าลงมา จึงส่งผลอัตราตอบแทนทองคำในประเทศสูงกว่า ราคา Spot โลก โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง แตะระดับ 1,880 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นผลพวงจากสหรัฐประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเมษายน แต่เฟดยังคงรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยไม่เกิน 2% โดยไม่กำหนดกรอบระยะเวลา ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำยืนพื้นได้ และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเทขายบิตคอยน์คาดว่า มีเงินส่วนหนึ่งไหลมาลงทุนทองคำ
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,683 วันที่ 30 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564