อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 14 เดือนที่ 32.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ 32.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ กรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาททยอย “อ่อนค่า”ลงท่ามกลางความกังวลต่อความเสี่ยงจากสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศ ประกอบกับมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมจากสัญญาณขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ สามารถเพิ่มช่วงบวกได้ต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้
สำหรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 4,155.03 ล้านบาท และ 1,041 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนจากข้อมูลของธนาคาร 10 แห่งสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 โดยธปท. อยู่ที่ -0.51 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.22 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า คาดไว้ที่ 31.90-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด 19 และการฉีดวัคซีนทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนี PMI/ ISM ภาคบริการเดือนมิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนพ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15-16 มิ.ย. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของจีน ด้วยเช่นกัน