นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบกฎหมายลูกจำนวน 4 ฉบับ ที่ออกตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ.2564 หรือ พ.ร.บ. e–Service (อี–เซอร์วิส) แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานกฤษฎีกา คาดว่าจะแล้วเสร็จและประกาศได้ทันก่อนวันที่ 1 ก.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันที่ พ.ร.บ.อี-เซอร์วิส มีผลบังคับใช้ โดยแพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องยื่นเสียภาษีครั้งแรกในประเทศไทยภายในวันที่ 23 ต.ค.นี้
สำหรับ พ.ร.บ.อี-เซอร์วิส ให้อำนาจกรมสรรพากรในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 7% จากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการต่างประเทศ แต่ไม่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นในประเทศไทย ซึ่งการออกกฎหมายลูกนั้น จะเป็นคู่มือ วิธีปฏิบัติ การเสียภาษี วิธีการลงทะเบียน วิธีการชำระเงิน วิธีการส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ทางออนไลน์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้มีการหารือและชี้แจงกับผู้ประกอบการแล้ว อาทิ เฟซบุ๊ก กูเกิล ยูทูป อเมซอน อโคด้า ซึ่งทุกรายมีความเข้าใจเป็นอย่างดี และเตรียมความพร้อมที่จะยื่นแบบภาษีทางออนไลน์ในวันที่ 23 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ กฎหมายลูกอย่างเป็นทางการ ฉบับแรก คือ หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกกฎกระทรวง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการส่งและการรับ และการเก็บรักษาหมายเรียก หนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากร แบบกำกับภาษีรายงานเอกสารหลักฐาน
หรือหนังสืออื่นใด ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ประกอบการที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิส์ต่างประเทศ ฉบับสอง การกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการจดภาษีมูลค่าเพิ่ม ของผู้ประกอบการอี-เซอร์วิสต่างประเทศ