นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่าจากกรณีการเกิดเหตุระเบิดที่ โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโกดังเก็บสารเคมี ทำให้มีการสั่งอพยพประชาชนและครัวเรือนออกจากพื้นที่ในบริเวณรัศมี 5-10 กิโลเมตรนั้น ประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด ส่วนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดกระทบแต่จำกัด เพราะสถานการณ์ควบคุมเริ่มคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม บจ.ที่อยู่ในพื้นที่รัศมีหลักๆ คือ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) ซึ่งมีโรงพยาบาลในเขตพื้นที่ดังกล่าว 2 แห่ง คือ CHG9 และ CHG1 โดยมีสัดส่วนเตียงรวม 165 เตียง คิดเป็น22% ของสัดส่วนเตียงรวม ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบยังจำกัด โดยยังต้องติดตามระยะเวลาในการปิด กรณีเลวร้ายสุด Worst Case หากปิด 1 เดือน คาดว่าจะกระทบรายได้ประมาณ 2% ต่อเดือน
ขณะที่ กลุ่มเช่าซื้อ คือ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC), บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (SAWAD) และบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (TIDLOR) คาดมีผลกระทบจำกัดเนื่องจากมีสาขาในบริเวณที่เกิดเหตุไม่ถึง 1% ของทั้งหมด