ความคืบหน้าหลังบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด ในเครือธนาคาร กสิกรไทยร่วมลงทุนกับบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย ในเครือ บริษัท ไลน์ คอร์ป ถือหุ้น 50% จัดตั้งบริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด “LINE BK” ด้วยทุนจดทะเบียน 2,200 ล้านบาท เพื่อขยายบริการสินเชื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) ที่ไม่มีรายได้ประจำในวงกว้างนั้น
นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด หรือ LINE BK เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังบริษัทจะเดินหน้าสร้างพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตคาดว่า จะรุกธุรกิจประกัน และการลงทุน โดยอาจจะเริ่มที่ประกันก่อนอย่างเร็วภายใน 1 ปี ในการพัฒนาบริการ ส่วนบริการด้านการลงทุนอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ตลาด
“อีก 2 สัปดาห์บริษัทจะประกาศพันธมิตรใหม่ ซึ่งจะเข้ามาช่วยขยายบริการสินเชื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ไม่ประจำในมุมกว้างขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา เราสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ถึง 40% จากบัญชีผู้ใช้ LINE BK แล้วกว่า 2.8 ล้านบัญชีผู้ใช้ โดยมียอดการทำธุรกรรมทางการเงิน 5 หมื่นล้านบาท และยังเป็นคนที่ไม่เคยมีประวัติในเครดิตบูโร 25%"นายธนากล่าว
สอดคล้องนโยบายบริษัทว่า เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้ารายย่อยหรือเอสเอ็มอี หรือคนทำงานภาคบริการท่ามการระบาดของโควิดและเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวและนักท่องเที่ยวยังไม่เข้ามา
แนวทางดำเนินธุรกิจนั้น ยังให้น้ำหนักการการดูแลความเสี่ยงเพื่อควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อเกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่ให้เกิน5% จากระดับ 2% ของยอดสินเชื่อคงค้างในตลาด 9,000 ล้านบาท โดยได้ปล่อยสินเชื่อแล้ว 14,000 ล้านบาท (ตั้งแต่เดือนต.ค.-ปัจจุบัน) คาดว่าจะแตะ 10,000 ล้านบาทใน 1-2 เดือนนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ผลตอบรับเป็นไปตามเป้าหมายทั้ง 4 บริการคือ บริการบัญชีเงินฝาก 3.4 ล้านบัญชี บริการบัญชีเงินออมดอกพิเศษ 75,000 บัญชี บริการบัตรเดบิต 1.4 ล้านบัตร รวมทั้งบัตรออนไลน์และบัตรเดบิตแบบแข็ง และบริการวงเงินให้ยืมยอดสมัคร 4 ล้านใบ อนุมัติสินเชื่อ 350,000 บัญชี
ขณะที่มียอดสมัครสูงสุด 65,000 ต่อวัน (ส่วนหนึ่งเป็นการสมัครซ้ำและไหลมาจากนโยบายรัฐ โดยเฉลี่ยวงเงินต่อคน สินเชื่อบุคคล 35,000 บาท และ Nano 11,000 บาท)
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,693 วันที่ 4 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564