นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนส่งผลให้เตียงสำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลมีไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดแนวทางการแยกตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการแสดง หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย สำหรับผู้ป่วยที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้นั้น ทำให้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงได้มีนโยบายให้จัดทำโครงการ “อว.พารอด” โดย อว. และหน่วยงานพันธมิตร ได้ระดมจิตอาสา รวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายดีแล้ว มาเสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ด้วยการโทรศัพท์ให้ข้อมูลการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วย COVID-19 ที่อยู่ใน Home Isolation และ Community Isolation
รวมทั้งจะมีการส่ง “กล่อง อว. พารอด” ที่มียาสมุนไพรและอุปกรณ์ที่จำเป็นเพิ่มเติมจากที่โรงพยาบาลมีให้ โดยจะเริ่มนำร่องกับผู้ป่วยที่อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลในเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) ภายใต้ อว. ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมานั้น
ดังนั้นเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ในโครงการดังกล่าว ในวันนี้ (2 สิงหาคม 2564) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย ดร.กิริฎา เภาพิจิตร กรรมการธนาคาร ในฐานะประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CG&CSR) ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง กรรมการธนาคาร พร้อมด้วย ผู้บริหารธนาคาร ร่วมกันเป็นผู้แทนธนาคาร มอบเงินสนับสนุนโครงการ “อว.พารอด” จำนวน 500,000 บาท โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้รับมอบ
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมไทยสู้ภัยโควิด-19 ที่ ธอส.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท อาทิ การจัดซื้อเครื่องฮีโมเปอร์ฟิวชั่นใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 การจัดสร้างไอซียูสนาม จัดหาเก้าอี้นั่งจุดพักคอย พร้อมเสื้อทีมของโรงพยาบาล รวมถึงสนับสนุนน้ำดื่มธนาคารกว่า 200,000 ขวด และหน้ากากอนามัยพร้อมสายคล้อง ให้หน่วยงานสำคัญต่าง ๆ อาทิ สถานพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็นต้น