สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ระบุว่า สืบเนื่องจาก นายบุญ วนาสิน ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ให้ข่าวผ่านสื่อเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมที่เป็นหน่วยงานนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ต่อมาในวันเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวและยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานในสังกัดยังไม่มีแผนหรือความตกลงร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนใด ๆ ในการสั่งซื้อหรือนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด นอกจากนี้ นายบุญยังกล่าวถึงการที่ต้องเสียเงินมัดจำเป็นจำนวน 500-600 ล้านบาท เนื่องจากผิดเงื่อนไขของสัญญาด้วย
ก.ล.ต. เห็นว่า เนื่องจากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความขัดแย้งกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิด และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหรือต่อการตัดสินใจลงทุนหรือต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์ ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ THG และนายบุญชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2564 พร้อมทั้งให้ THG เปิดเผยคำชี้แจงผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้มีหนังสือ 2 ฉบับ ถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ THG และ นายบุญ วนาสิน ในฐานะประธานกรรมการของ THG ให้ชี้แจงกรณีดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2564
"หมอบุญ" ถอดใจ ไม่สามารถหาหน่วยงานนำเข้า
อนึ่งเมื่อเช้าวันนี้ นายแพทย์ บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยผ่านรายงานเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางช่อง 9 ว่า ถอดใจเรื่องนี้แล้ว บอกยากมาก แม้ว่าวัคซีนมีติดต่อได้ แต่ไม่สามารถหาหน่วยงานนำเข้าได้
"พยายามติดต่อหลายหน่วยงาน ไม่มีใครอยากยุ่ง กลัวผลกระทบ อาจถูกกล่าวหามุ่งกำไรรวมถึงติดต่อ "ศิริราช" ด้วย โดยที่ผ่านมา ดีลตัวแทน "ไฟเซอร์" ไปหลายครั้ง หลายประเทศ มีวัคซีนเมื่อไม่สามารถหาองค์กรนำเข้าในเมืองไทย ถูกปรับไปแล้ว 2-3 ครั้ง"
ส่วนข่าวที่จะให้องค์กรในกระทรวงกลาโหม เป็นผู้นำเข้านั้น นพ.บุญเผยว่า น้องชายทำธุรกิจของเขาเอง ส่วนตัวเองไม่เคยติดต่อกลาโหม
ส่วนกรณีถูกกล่าวหาว่าปั่นหุ้น นพ.บุญ แจงว่าซื้อ-ขายปกติรายได้ 2-3 ล้านบาท แต่วอลลุ่มของวัคซีน 3 หมื่นล้านบาท.