ธ.ก.ส.ช่วยเกษตรกรปศุสัตว์ งดคิดดอกเบี้ย 6 เดือน

06 ส.ค. 2564 | 09:19 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2564 | 17:50 น.

ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรปศุสัตว์ ขยายเวลาชำระหนี้ 1 ปี และลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 0% ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน แจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ส.ค. 64 ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า การเกิดโรคระบาดปศุสัตว์ โดยเฉพาะโรคลัมปี สกิน ที่แพร่ระบาดในโค กระบือ และโรคระบาดอื่นๆ ที่ระบาดในสุกร ซึ่งกระจายในทุกภูมิภาคของประเทศกว่า 62 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจด้านปศุสัตว์ ทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ  อีกทั้งเกษตรกรมีรายได้ลดลงจนไม่สามารถส่งชำระหนี้ได้ตามกำหนด

 

สมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 

ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดปศุสัตว์ปี 2564 (ผู้เลี้ยงโค กระบือ และสุกร) ทั้งในส่วนของเกษตรกรลูกค้ารายคน วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งมีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และมีงวดชำระในปีบัญชี 2564 (งวดเดือนเมษายน 2564 - มีนาคม 2565) ไม่รวมหนี้ในโครงการนโยบายรัฐ (PSA)

 

โดยเกษตรกรแจ้งเหตุความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าวต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและนำเอกสารจากสำนักงานปศุสัตว์ (กษ.01 หรือ กษ.02) มายื่นที่ ธ.ก.ส.สาขาที่ท่านเป็นลูกค้า ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้มาตรการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ คือ

ธ.ก.ส.ช่วยเกษตรกรปศุสัตว์ งดคิดดอกเบี้ย 6 เดือน

1.กรณีที่มีหนี้วงเงินกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย  จะขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันครบกำหนดชำระหนี้เดิม

 

2.กรณีเงินกู้เพื่อเป็นค่าลงทุน จะทำการทบทวนกระแสเงินสดและปรับตารางการชำระหนี้ใหม่ให้สอดคล้องกับที่มาแห่งรายได้ของลูกค้า และยังลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เหลือ 0%  ต่อปี เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564- 28 กุมภาพันธ์ 2565

 

โดยมีวงเงินให้ความช่วยเหลือ กรณีประเมินความเสียหายเกิน 50% วงเงินช่วยเหลือเท่ากับต้นเงินกู้คงเหลือ หากเป็นเกษตรกรลูกค้ารายคนสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท วิสาหกิจชุมชนสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท 

 

กรณีประเมินความเสียหายไม่เกิน 50%  วงเงินช่วยเหลือครึ่งหนึ่งของต้นเงินกู้คงเหลือ หากเป็นเกษตรกรลูกค้ารายคนสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท วิสาหกิจชุมชนสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท