กสิกรไทยกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ด้านบล.กสิกรไทยมองดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,513 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,540 และ 1,555 จุด ตามลำดับ
ธนาคารกสิกรไทยมอง สัปดาห์หน้า (16-20 ส.ค.64) กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 ของไทย สถานการณ์โควิดในประเทศ และรายงานการประชุมกนง. (BOT MPC Minutes) เมื่อ 4 ส.ค. ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนส.ค. และบันทึกการประชุมเฟด (FOMC minutes) เมื่อวันที่ 27-28 ก.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 2/64 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลอัตราดอกเบี้ย LPR และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อในวันศุกร์ (13 ส.ค. 64) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ส.ค.)
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย จำกัด มองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 16-20ส.ค. 2564 โดยระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,513 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,540 และ 1,555 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 ของไทย สถานการณ์โควิดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประเด็นการเมืองภายในประเทศ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านใหม่เดือนก.ค. ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 2/64 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ผลผลิตภาคอุตสากรรมเดือนมิ.ย. ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ค.ของยูโรโซน การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนส.ค. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของจีน โดยดัชนี SET ( ณ วันที่13 ส.ค. 64) ปิดที่ระดับ 1,528.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.43% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 83,321.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.53% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.34% มาปิดที่ 488.32 จุด