นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้ช่วยผู้ว่าการ) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า สกุลเงินดิจิทัลสำหรับประชาชน (Retail CBDC) ที่ออกโดยธปท.คาดว่า จะเริ่มทดสอบเสมือนจริงในวงจำกัด (Pilot Test)ภายในธปท. ได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 2565 ก่อนจะขยายไปยังประชาชนทั่วไป ร้านค้าขนาดใหญ่และขนาดย่อมมีธุรกรรมการใช้จ่ายของประชาชนรายย่อยที่สูง รวมถึงผู้ให้บริการทางการเงินที่เป็นธนาคารและสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (นอนแบงก์)
ทั้งนี้ จากการศึกษาผลกระทบของ Retail CBDC ต่อภาคการเงินไทยชี้ว่า การออกแบบและการพัฒนา Retail CBDC ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต้องไม่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อการส่งผ่านนโยบายการเงิน การทำงานของระบบสถาบันการเงิน และเสถียรภาพโดยรวมของภาคการเงินไทย
ลักษณะสำคัญของ Retail CBDC คือ รูปแบบคล้ายเงินสดและไม่จ่ายดอกเบี้ย อาศัยตัวกลาง เช่น สถาบันการเงินในการแลกเปลี่ยน Retail CBDC กับประชาชน และมีเงื่อนไขหรือระยะเวลาสำหรับการแลกเปลี่ยน Retail CBDC จำนวน มากๆ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกับเงินฝากหรือเกิดการโยกย้ายเงินฝากปริมาณมากอย่างรวดเร็วจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะกระทบต่อการทำหน้าที่ตัวกลางในการรับเงินฝากและให้กู้ยืมรวมถึงการบริหารสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงิน
“ธปท.ประเมินว่า ความต้องการใช้ Retail CBDC ของประชาชนจะเพิ่มขึ้นอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป และ Retail CBDC จะเข้ามาเป็นอีกทางเลือกในการชำระเงินให้กับประชาชน โดยอาจถูกใช้ทดแทนเงินสด และ e-money ได้บางส่วนในระยะต่อไป”นางสาววชิรากล่าว
ส่วนผลสำรวจความเห็นจากสาธารณชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางการพัฒนา Retail CBDC ของธปท. และมองว่า จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย เปิดกว้างต่อการเข้าถึงและการแข่งขันในอนาคต
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,707 วันที่ 22 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2564