นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นระดับสูง (Expected credit loss: ECL) กว่า 32,064 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 2564 เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่หดตัวและมีแนวโน้มว่า การฟื้นตัวจะเลื่อนเวลาออกไป รวมถึงรองรับผลกระทบจากการให้ความช่วยเหลือลูกค้า เพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อด้วย แม้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้
ส่วนทิศทางในครึ่งปีหลัง ยังคงมีความท้าทายจากโควิด-19 ธนาคารยังคงเป้าหมายทางการเงินไว้ในระดับเดิม แต่อาจจะเพิ่มความรอบคอบ (Prudent) มากขึ้น ซึ่งความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ สินเชื่อลูกค้าบุคคล และสินเชื่อภายใต้มาตรการช่วยเหลือต่างๆ
ณ มิถุนายน 2564 ธนาคารมีสินเชื่อที่อยู่ภายใต้มาตรการช่วยเหลือ 3.38 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 14% ของสินเชื่อรวม โดยลูกค้าประมาณ 97% ยังคงสามารถจ่ายชำระหนี้ได้หรือมีการค้างชำระไม่เกิน 30 วัน
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2564 มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่า 1% ที่ปรับประมาณการไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ทวีความรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ มาตรการล็อกดาวน์อาจจะต้องขยายเวลาออกไปไม่ต่ำกว่า 2 เดือน แต่แนวโน้มการส่งออกดีกว่าที่เคยประเมินไว้จากอานิสงส์ของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด อีกทั้งภาครัฐจะมีมาตรการต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยตัวแปรสำคัญคือ การเร่งฉีดวัคซีนโควิด
“แม้โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และธุรกิจธนาคารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและร่วมมือตามนโยบายต่างๆของภาครัฐที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการในการช่วยพื้นฟูระบบเศรษฐกิจไทย”นายกฤษณ์กล่าว
อยางไรก็ตาม วิกฤตโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานของธนาคาร โดยธนาคารยังคงดำเนินงานตามหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน และยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจ ด้วยจุดมุ่งหมายในการเพิ่มอํานาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า (To Empower Every Customer’s Life and Business) รวมทั้งดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ด้านการบริหารความเสี่ยงนั้น ธนาคารกสิกรไทยมุ่งเสริมสร้างการบริหารความเสี่ยงให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมทั้งผลกระทบต่อห่วงโซ่ธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,706 วันที่ 19 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2564