นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิดและแนวโน้มยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ผู้บริโภคยังมีความต้องการสินเชื่อ ซึ่งเป็นความท้าทายของธุรกิจสินเชื่อบุคคลในปีนี้ ที่จะต้องให้บริการควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพลูกหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยพยายามจะรักษาเอ็นพีแอลอยู่ในระดับ 3%(สิ้นไตรมาส 2/64)พร้อมรักษาพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2.94หมื่นล้านบาท
ล่าสุดได้อัพเกรดผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมบัตรกดเงิน เคทีซี พี่เบิ้ม” ครบฟังก์ชันรูด-โอน-กด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการสินเชื่อไทยที่มีการออกผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ เพื่อให้คนไทยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการต่อยอดใช้จ่ายสิ่งจำเป็น เหมาะสำหรับผู้มีรถมอเตอร์ไซค์และมีเล่มทะเบียนเป็นชื่อตนเอง ชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ “กู้ง่าย ได้ไว อนุมัติรับเงินก้อนใหญ่พร้อมบัตรกดเงินสด” โดยที่สมาชิกสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ไปใช้ต่อได้ อีกทั้งยังรับวงเงินสินเชื่อแบบหมุนเวียน และสำหรับลูกค้าที่มีประวัติการชำระที่ดี สามารถเบิกถอนวงเงินจากบัตรกดเงินสดเพื่อใช้ยามฉุกเฉินได้เพิ่มเติมหรือรูดซื้อสินค้าโอนเงินเข้าบัญชีแบบเรียลไทม์ฟรีค่าธรรมเนียม
สำหรับแผนงานธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน 4เป้าหมายหลัก 1) มุ่งช่วยเหลือสมาชิกสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมเช่นแปลงหนี้ระยะสั้นเป็นหนี้ระยะยาว,ลดดอกเบี้ย,ลดวงเงินผ่อนชำระ โดยรวมให้ความช่วยเหลือลูกค้า 35,000รายมูลหนี้ 1,500ล้านบาท เฉพาะพักชำระหนี้ 13,000ราย(ปิดรับเมื่อ 15ส.ค.64) 2) แบ่งเบาสมาชิกด้วยโครงการเคลียร์หนี้เกลี้ยงต่อเนื่อง โดยซีซันที่ 12 นี้ เมื่อสมาชิกลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ใช้บัตรกดเงินและมีวินัยในการชำระคืนตรงเวลา จะได้รับสิทธิ์เคลียร์หนี้เกลี้ยง 100% และเคลียร์หนี้ 10% ตลอดทั้งปี
3) มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องให้สมาชิกมีประสบการณ์ใช้สินเชื่อที่สะดวกสบาย ปลอดภัย ลดการสัมผัสเงินสด โดยพัฒนาการโอนเงินออนไลน์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile” ไปยัง 13 ธนาคารแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง การ ขอเพิ่มวงเงินฉุกเฉินผ่านระบบอัตโนมัติ IVR ได้ง่ายๆ รวมทั้งสามารถนำบัตรกดเงินสดไปใช้งานได้ทั้ง 4 ฟังก์ชัน “รูด โอน กด ผ่อน” 4) การขยายฐานสมาชิกสินเชื่อรายใหม่ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนสมาชิกสินเชื่อ “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) ไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้สูงขึ้นและต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ ด้วยแคมเปญแบ่งเบาภาระ ลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 0.93% ผ่อนได้นานถึง 36 เดือน
นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อ "เคทีซี พี่เบิ้ม" กล่าว ช่วงที่เหลือยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง โดยยังคงตั้งเป้าเติบโตสิ้นปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยพยายามปรับตัวตามแผนกลยุทธ์ 4เรื่องหลัก 1) ขยายขอบเขตพอร์ตผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น หลับกรุงไทยธุรกิจ ลีสซิ่ง (KTBL) เข้ามาเสริมทัพ ทำให้นำเสนอสินเชื่อทะเบียนรถแบบโอนเล่ม การทำรีไฟแนนซ์สินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อรถยนต์มือสอง ที่จะเริ่มในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ 2) การเซ็นสัญญาแบบดิจิทัล(e-Signature)ลดขั้นตอน การสมัคร และเซ็นสัญญา “เคทีซี พี่เบิ้ม”โดยปรับรูปแบบการทำสัญญาเป็นแบบดิจิทัล
3) ขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศภายในปีนี้ เช่น สาขาของธนาคารกรุงไทยทุกภูมิภาค และสาขาเครือข่ายของ KTBL อีก 10สาขา 4) ทำให้จุดแข็งของเคทีซี พี่เบิ้ม เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ด้วยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อม 4 จุดแข็ง วงเงินใหญ่(สูงสุด 1ล้านบาท) อนุมัติใน 2 ชั่วโมง และรับเงินทันที รับสมัครสมาชิกไม่จำกัดอาชีพ และบริการพี่เบิ้ม เดลิเวอรี่ (P Berm Delivery) อนุมัติสินเชื่อถึงที่ ไม่มีวันหยุด
“เคทีซี พี่เบิ้ม” ยังยืนยันเจตนารมย์สนับสนุนช่วยเหลือคนไม่ท้อทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ กลุ่มขวัญใจ “เคทีซี พี่เบิ้ม” จะเป็นกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนสูง ได้แก่ พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของกิจการขนาดเล็ก และกลุ่มอาชีพอิสระ โดยจะเน้นการเข้าถึงสินเชื่อที่ง่าย วงเงินใหญ่ เอกสารไม่ยุ่งยาก เงื่อนไขหลักประกันน้อย ไม่จำกัดอายุรถ ผ่อนไม่หมดก็สามารถขอสินเชื่อได้ รวมถึงการปรับเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ เจ้าของรถติดไฟแนนซ์ และเจ้าของรถยนต์ที่มีข้อจำกัดจากสถาบันการเงินอื่น”