ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,879.38 จุด ลดลง 151.69 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,493.28 จุด ลดลง 20.79 จุด หรือ -0.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,248.25 จุด ลดลง 38.38 จุด หรือ -0.25%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับลดวงเงิน QE เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 310,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 335,000 ราย
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 2.12%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลแคร์ปรับตัวลงกว่า 1% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ส่วนหุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นจากความหวังที่ว่า ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนของสหรัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 0.37% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 0.44% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 0.26% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 1.28%
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงิน QE หรือไม่
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.