วันนี้(17 ก.ย.64) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประมวลจริยธรรมของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
โดยที่มาตรา ๗๖ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กําหนดให้รัฐพึงจัดให้มี มาตรฐานทางจริยธรรมเพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกําหนดประมวลจริยธรรมสําหรับ เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว และพระราชบัญญัติ มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบกับระเบียบคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทําประมวลจริยธรรม ข้อกําหนดจริยธรรม และกระบวนการรักษาจริยธรรม ของหน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้กําหนดมาตรฐานทางจริยธรรมและหลักการสําคัญ ของประมวลจริยธรรมเพื่อเป็นหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งกําหนดองค์กรที่มีหน้าที่จัดทําประมวลจริยธรรม
คณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในการประชุมคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ จึงออกประมวลจริยธรรมของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการประพฤติปฏิบัติ อย่างมีคุณธรรมของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ผู้อํานวยการ และพนักงานของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประมวลจริยธรรมนี้เรียกว่า “ประมวลจริยธรรมของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก”
ข้อ ๒ ประมวลจริยธรรมนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประมวลจริยธรรมนี้
“สถาบัน” หมายความว่า สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้ง
“ที่ปรึกษาคณะกรรมการ” หมายความว่า ที่ปรึกษาคณะกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้ง
“ผู้อํานวยการ” หมายความว่า ผู้อํานวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
“ พนักงาน” หมายความว่า พนักงาน พนักงานทดลองปฏิบัติงาน และพนักงานตามสัญญาจ้าง ตามข้อบังคับสถาบันคุ้มครองเงินฝากว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงผู้ปฏิบัติงานอื่นในสถาบัน
ข้อ ๔ คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ผู้อํานวยการ และพนักงาน พึงปฏิบัติตนเพื่อรักษาจริยธรรม ดังต่อไปนี้
(๑) ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น ปฏิบัติตนตามแนวพระราชดําริ พระบรมราโชวาท ภูมิใจในชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ
เคารพในความแตกต่างของการนับถือศาสนา และยึดมั่นในหลักการการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย เคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้น
(๒) ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสํานึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าที่ เช่น ตระหนักในบทบาทหน้าที่ ที่รับผิดชอบ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต รอบคอบ เสียสละและอุทิศตนในการปฏิบัติงาน ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ รับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นต้น
(๓) กล้าตัดสินใจและกระทําในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม เช่น ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้อง ตามหลักกฎหมาย หลักวิชาการ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง โดยกล้าแสดงความคิดเห็น หรือทักท้วง เมื่อพบว่ามีการกระทําในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือการทุจริตประพฤติมิชอบต่อผู้บังคับบัญชา เป็นต้น
(๔) คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสาธารณะ เช่น ปฏิบัติหน้าที่ ยึดถือเป้าหมายส่วนรวมและผลประโยชน์ของสถาบัน ประชาชนผู้ฝากเงิน สถาบันการเงิน ผู้มีส่วนได้เสีย และประเทศชาติ ละเว้นการเรียกรับหรือดําเนินการอื่นใดที่ประสงค์จะให้ตนเองได้รับประโยชน์ตอบแทน จากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น
(๕) มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน เช่น ปฏิบัติหน้าที่โดยคํานึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายอย่างดีที่สุด โดยรักษาและพัฒนามาตรฐานการทํางานที่ดีเพื่อเพิ่มศักยภาพ การทํางานให้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น
(๖) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ เช่น ปฏิบัติหน้าที่โดยคํานึงถึงความเป็นธรรม ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ จะได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่เลือกปฏิบัติโดยใช้ความรู้สึก หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือเหตุผลของความแตกต่างทางกาย จิตใจ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา เพศ ภาษา อายุ สีผิว การศึกษา สถานะทางเศรษฐกิจสังคม หรือเรื่องอื่นใด เป็นต้น
(๗) ดํารงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร เช่น ประพฤติปฏิบัติตน และปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ไม่กระทําการใด ๆ อันอาจนําความเสื่อมเสียและไม่ไว้วางใจ ให้เกิดแก่สถาบัน เป็นต้น
ข้อ ๕ ข้อกําหนดจริยธรรมหรือแนวทางการปฏิบัติตนของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ผู้อํานวยการ และพนักงาน ตามประมวลจริยธรรมของสถาบัน รวมทั้งจรรยาบรรณ ของสถาบันให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการหรือสถาบัน แล้วแต่กรณีกําหนด
ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
กุลยา ตันติเตมิท
ประธานกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก