คืบหน้าโครงการ"คนละครึ่งเฟส 3" ภายหลังจากที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 ได้เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ให้ปรับปรุงรายละเอียดของโครงการ ฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดยปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 31 ล้านสิทธิ เป็น 28 ล้านสิทธิ ทำให้มีสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 คงเหลือประมาณ 1 ล้านสิทธิ
อัพเดตข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2564 โครงการ"คนละครึ่งเฟส 3 " มีจำนวนสิทธิคงเหลือ 1,005,609 สิทธิ ยังเปิดให้ลงทะเบียนสมัครจนกว่าสิทธิจะหมด หรือสิ้นสุดโครงการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ผู้ที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับเงินใช้จ่ายผ่านแอปฯ"เป๋าตัง" 3,000 บาท แบ่งการโอนเป็น 2 รอบ
กรณีที่ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ วันนี้ จะได้รับวงเงินใช้จ่ายผ่านแอปเป๋าตังทันที 1,500 บาทสำหรับการใช้จ่ายในรอบแรก และรับอีก 1,500 บาท ( รวม 3,000 บาท ) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สำหรับการใช้จ่ายในรอบสอง ส่วนผู้ที่สมัครหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จะได้รับวงเงินใช้จ่าย 3,000 บาท
เงื่อนไขในการใช้จ่าย รัฐบาลจะช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิจ่ายเอง 50% จำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาท/วัน หากใช้จ่ายวงเงินในรอบแรกไม่หมด ยังสามารถเก็บไว้ใช้จ่ายได้ยาวจนถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โครงการ"คนละครึ่งเฟส 3" ยังเปิดให้ใช้สิทธิซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านที่เข้าร่วมในระบบแพลตฟอร์ม "ฟูด เดลิเวอรี่" (Food Delivery Platform) ทั้งนี้ รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารและ/หรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด
ล่าสุดมีผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 2 ราย คือ Grab และ LINEMAN
คุณสมบัติและเงื่อนไขการลงทะเบียน
ลงทะเบียนสมัครได้ 2 ช่องทาง
ยอดใช้จ่ายสะพัด 6.7 หมื่นล้าน
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้อัพเดตข้อมูลการใช้จ่ายผ่านมาตรการของรัฐ ว่าล่าสุดมียอดใช้จ่ายสะสมรวม 77,755.2 ล้านบาท จากจำนวนผู้ใช้สิทธิสะสมทั้งสิ้น 39.01 ล้านคน
จำนวนนี้เป็น "โครงการคนละครึ่งเฟส 3 "จากจำนวนผู้ใช้สิทธิ 24.27 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 66,911.6 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 34,044.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,867.4 ล้านบาท
"ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ กระทรวงการคลังจะโอนเงินคนละครึ่งรอบที่ 2 จำนวน 1,500 บาท โดยเชื่อมกับระบบ Food Delivery Platform ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 ซึ่งขณะนี้มี Grab และ Lineman ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการแล้ว ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเข้าถึงบริการได้มากขึ้น สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ New Normal ในยุคโควิด-19 และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในไตรมาสที่ 4 ระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคมของปี 2564 ให้ขยายตัวมากขึ้นด้วย" โฆษกรัฐบาล กล่าว