นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ย สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท (หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์) ชุดใหม่ โดยระยะ 5 ปีแรก อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.60% ต่อปี จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุกๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ ขณะนั้น
สำหรับจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณทุกๆ 100,000 บาท แบ่งการเสนอขายออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ซีพี ออลล์ ครั้งที่ 1/2559 (CPALL16PA) ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2564
ทางบริษัทฯ ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้ CPALL16PA เดิม สามารถใช้เงินที่ได้จากการไถ่ถอน ตามที่บริษัทฯมีแผนจะไถ่ถอนหุ้นกู้ CPALL16PA ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 มาซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่ต่อได้ เพื่อให้การลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะเสนอขายผ่านธนาคารไทยพาณิชย์
สำหรับช่วงที่ 2 จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 22-26 และ 29 พฤศจิกายน 2564 ผ่านธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร โดยการออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งที่ 1/2559 ที่บริษัทฯ มีแผนจะใช้สิทธิไถ่ถอนในวันที่ 30 พฤศจิกายน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ ”A+” แนวโน้ม ‘คงที่” และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่อยู่ที่ระดับ “A-“ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 สะท้อนถึงการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยที่มีความมั่นคงภายใต้อุตสาหกรรมที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง
“การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯของซีพี ออลล์ ที่ผ่านๆ มา ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี และเชื่อว่า ครั้งนี้ก็จะได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน จากผู้ลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ และระดับความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้”นายเกรียงไกรกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีประวัติการชำระดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ และได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลการดำเนินงาน ความแข็งแกร่งของกิจการ รวมทั้งโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง แม้จะต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังรักษาความสามารถในการดำเนินงานไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงยังมีแผนในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทฯ มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง โดยมุ่งสู่การให้บริการผ่านออนไลน์ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O ที่ผสมผสานช่องทาง Omni-Channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งการให้บริการผ่านออลล์ ออนไลน์ (ALL Online) รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ของ “เซเว่น อีเลฟเว่น” (7-Eleven Delivery) ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้าน เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมุ่งขยายสาขา “เซเว่น อีเลฟเว่น” ได้ตามเป้าหมาย