จากกรณีมีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้เสียหายถูก ดูดเงินจากบัญชี หรือ บัตรเดบิต จำนวนหลายครั้ง โดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว แฮกบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต และดูดเงินออกจากบัตรเดบิตผ่านเครื่อง EDC หรือเครื่องรูดบัตร แต่ไม่มี SMS แจ้งเตือน แต่ละครั้งจะถอนเงินจำนวนไม่มาก
วันนี้19 ต.ค. 64 เมื่อเวลา 09.00 น. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคม ธนาคารไทย ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงกรณีการตัดเงินผิดปกติจากบัญชีบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ว่า
ในช่วงวันที่ 1-17 ต.ค.64 ตรวจสอบพบการตัดเงินที่ผิดปกติจากการใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 10,700 บัตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการตัดเงินจากบัตรเดบิต และกว่า 90% มาจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่อยู่ในต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์เจ้าของบัญชี
ทั้งนี้ผลตรวจสอบเบื้องต้นจากธปท. และ สมาคมธนาคารไทย ใกล้เคียงกับข้อสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพล.ต.ต. นิเวศน์ อาภาวศิน ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า จากการสอบสวนพบว่า คนร้ายมีข้อมูลหมายเลขหน้าบัตรและหลังบัตร รวมถึงวันหมดอายุของบัตร ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับธปท.และกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ถึงมาตรการป้องกัน
พฤติการณ์การก่อเหตุ สัญนิษฐานว่าเกิดจาก 3 รูปแบบ