นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) ชื่อย่อหลักทรัพย์ “CKP” เปิดเผยว่า CKPower ได้เสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 มูลค่า 2,000 ล้านบาท ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ และยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยมียอดจองเกินกว่า 2 เท่าของจำนวนที่ทางบริษัทฯ เสนอขาย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกิจการในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นหุ้นกู้อายุ 10 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.58 %ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนด
หุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 โดยบริษัทฯ จะนำเงินบางส่วนจากการขายหุ้นกู้ มาชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และมีแผนนำเงินส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการต่อไป
“ความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 CKPower มีรายได้รวม 4,396.2 ล้านบาท เติบโตขึ้น 803.1 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 22.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 821.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2563”นายธนวัฒน์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ใน สปป.ลาว อยู่ระหว่างการดำเนินการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เพื่อเตรียมพร้อมในการออกหุ้นกู้ ซึ่งวางแผนไว้ในปี 2565 โดยหากได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน คาดว่า XPCL จะสามารถลดต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของ XPCL ได้
อย่างไรก็ตาม CKPower ยังมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 กิจกรรมหลักของบริษัทฯจะยังคงเป็นการดำเนินการพัฒนาและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำต่างๆ รวมถึงศึกษาโอกาสทางด้านการลงทุนในโครงการไฟฟ้าที่เป็นพลังงานหมุนเวียน และพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก เพื่อให้ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต