“คนละครึ่ง3” เปิดลงทะเบียนใหม่ 1.1 แสนสิทธิ 1 พ.ย.นี้

29 ต.ค. 2564 | 03:49 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2564 | 10:53 น.

คลัง เผย “คนละครึ่ง3” ลงทะเบียนไม่สำเร็จ กว่า 1.1 แสนสิทธิ เตรียมนำกลับมาเปิดลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง เริ่ม 1 พ.ย. นี้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิแล้ว และกระทรวงการคลังได้ประมวลผลผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ มีจำนวนทั้งสิ้น 119,974 ซึ่งจะนำสิทธิที่เหลือดังกล่าวมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวันจนกว่าจะครบ 28 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

นอกจากนี้ สำหรับประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 อยู่แล้ว จะมีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่าย รอบที่ 3 จำนวน 1,500 บาทต่อคน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งวงเงินสนับสนุนเพิ่มเติมดังกล่าวจะได้รับโดยอัติโนมัติ และสำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับวงเงินสนับสนุนรัฐร่วมจ่ายทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564  

 

โฆษกกระทรวงการคลังยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ (โครงการฯ) เพิ่มเติมอีกหนึ่งราย ได้แก่ True Food ซึ่งเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มเดิมที่ได้รับอนุมัติอยู่แล้ว ได้แก่ Grab และ LINEMAN รวมทั้งสิ้นเป็น 3 ราย

 

สำหรับข้อมูลการใช้จ่ายล่าสุด ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2564 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 25.55 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 115,291.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 58,605.3 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 56,686.5 ล้านบาท และข้อมูลการใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มล่าสุด (29 ตุลาคม 2564 เวลา 8.00 น.) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 มีการใช้จ่ายสะสมประมาณ 897.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนใช้จ่าย 463.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 434.3 ล้านบาท