รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความร้อนแรง หลังจากในปี2564 สภาพการซื้อขายมีความร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะในหลักทรัพย์ขนาดเล็ก ทำให้มาตรการกำกับการซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถบรรลุวัดถุประสงค์ของการกำกับดูแลในบางหลักทรัพย์ที่สภาพการซื้อขายยังคงเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับได้ แม้หลักทรัพย์ดังกล่าวจะอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นระยะเวลานานหรือปรับเพิ่มมาตรการจนถึงระดับสูงสุดที่มี และได้ยกระดับการดำเนินการแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ตลท.ได้เสนอให้ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายในปัจจุบัน ให้ดำเนินการป้องกันความเสี่ยงให้เร็วขึ้น โดยการรวบมาตรการระดับ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน ซึ่งให้เริ่มมาตรการระดับ 1 ด้วยการให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย นอกจากนี้ ยังกำหนดเพิ่มการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 วันทำการ เป็นมาตรการระดับ 3 ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนได้พิจารณาทบทวนก่อนตัดสินใจซื้อขาย
สำหรับหลักเกณฑ์ในเรื่องมาตรการกำกับการซื้อขายมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนที่จะซื้อขายในหลักทรัพย์ที่สภาพการซื้อขายไม่สอดรับกับปัจจัยพื้นฐาน โดยผู้ลงทุนยังคงสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ แต่จะมีการเพิ่มเงื่อนไขบางประการในการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น
ปัจจุบันมาตรการกำกับการซื้อขายแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่ (1) การเตือน คือ เตือนบริษัทสมาชิกกรณีพบการส่งคำสั่งที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขาย หรือเตือนผู้ลงทุนให้ทราบถึงข้อเท็จจริงของหลักทรัพย์ก่อนตัดสินใจซื้อขาย และ (2) การจำกัดอำนาจซื้อ คือ การเพิ่มเงื่อนไขบางประการเพื่อลดความเสี่ยงด้านการชำระราคา ได้แก่ ให้ซื้อด้วยการวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ (หรือซื้อด้วยบัญชีCash Balance), ห้ามนำหลักทรัพย์ที่มีสภาพผิดปกติดังกล่าวเป็นหลักประกันในการคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้ามหักกลบค่าซื้อกับค่าขายภายในวัน (หรือห้าม Net Settlement)
"เพื่อให้การกำกับดูแลการซื้อขายสอดรับกับสภาพการซื้อขายที่ร้อนแรงขึ้นในปี 2564 โดยมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน และ % Tumover Velocity ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมาก ซึ่งข้อมูล ณ สิ้นเดือนกันยายน
2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,463 ล้านบาท ด้วย %Turnover Velociy ที่ 0.51% จากปีก่อนที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,607 ล้านบาท ด้วย % Tumover Velociy ที่ 0.42%, เพิ่มประสิทธิภาพมาตรการเดิมที่ประสิทธิผลลดลง จากจำนวนหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการในระดับสูงสุดมากขึ้น และสภาพการซื้อขายยังคงปรับตัวไม่สอดรับกับพื้นฐานแม้อยู่ในระดับมาตรการขั้นสูงสุดแล้วก็ตามและสอดคล้องกับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่กำหนดให้การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว เป็นหนึ่งในมาตรการกำกับการซื้อขาย เช่น เกาหลี, ไต้หวัน เป็นต้น"