เปิดเส้นทาง" ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา" สู่เศรษฐีหน้าใหม่วงการเงินดิจิทัล

04 พ.ย. 2564 | 12:49 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2564 | 19:18 น.

"Bitkub" ก้าวสู่สตาร์ทอัพยูนิคอร์นระดับแถวหน้าของไทย ใช้เวลาเพียง 3 ปีเศษ และล่าสุด SCBx ประกาศส่ง บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เข้ามาร่วมทุน 51% มูลค่า 17,850 ล้านบาท เบื้องหลังความสำเร็จ ส่งให้ชื่อ " ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา"ซีอีโอวัย 31 ปี ทะยานเข้ามาอยู่ในกระแสความสนใจ

"ฐานเศรษฐกิจออนไลน์" พามารู้จัก "ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา" Group CEO ผู้ร่วมผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด  ( Bitkub ) และกำลังขึ้นแท่นเศรษฐีหน้าใหม่ 

 

ท๊อป จิรายุส  เกิดและโตในครอบครัวธุรกิจขายเสื้อผ้าส่งออก ชีวิตในวัยเด็ก เจ้าตัวเล่าว่า เป็นเด็กเกเรครอบครัวจึงส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยเริ่มเข้าศึกษาในระดับมัธยมที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่โรงเรียนมาร์ลบะระ บอยส์ คอลเลจ (Marlborough Boys College) ในเมืองเบรนอิมในระดับมัธยมต้น และศึกษาต่อในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนวังกานุยคอลลีจิเอท (Whanganui Collegiate School) ที่เมืองวังกานุย 

 

ภาพ : Jirayut Topp Srupsrisopa

 

จากนั้นได้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ จนคว้าเกียรตินิยมเหรียญทอง และปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สาขาเศรษฐศาสตร์ หลังสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทในปี 2556 ได้ทำงานเป็นวาณิชธนกิจให้กับสถาบันการเงินที่นครเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน และที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงสั้น ๆ 5 เดือน 

 

ย้อนรอยความสำเร็จ Bitkub

ก่อนจะลาออกมาเปิดธุรกิจซื้อขายเงินบิตคอยน์ร่วมกับเพื่อน ในปี 2556 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในชื่อ Coins.ph และ 3 เดือนต่อมา ได้เปิดศูนย์แลกเปลี่ยน Coins.co.th  (คอยส์ไทยแลนด์) ในประเทศไทย  จากนั้นปี 2561 เดือนกุมภาพันธ์  2561  จึงได้ก่อตั้ง  Bitkub ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยทุนจดทะเบียน  290 ล้านบาท
 

 
ผลดำเนินงานของ Bitkub มีอัตราเติบโตในช่วง 3 ปีทีผ่านมา (2561-2563 ) เฉลี่ยปีละ 1,000%  จากข้อมูลรายงานงบการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์  ระบุดังนี้

 

  • ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 3 ล้านบาท ขาดทุน 18 ล้านบาท มีหนี้สิน 1.7 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 32 ล้านบาท 
  • ปี 2562 รายได้รวม 36 ล้านบาท ขาดทุน 14 ล้านบาท มีหนี้สิน 11 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 32.9 ล้านบาท 
  • ปี 2563 รายได้รวม 330 ล้านบาท กำไร 79.9 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 442 ล้านบาท หนี้สิน  59 ล้านบาท

 

ขณะที่ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย. 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,279 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,533 ล้านบาท (อ้างอิงจากงบการเงินยังไม่สอบทาน) มีมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่รายงานต่อ ก.ล.ต. รวมประมาณ 1.03 ล้านล้านบาท มีมูลค่าสินทรัพย์ของลูกค้าภายใต้การดูแลทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท และมีพนักงาน 1,478 คน

 

8 ปีเส้นทางความสำเร็จสกัดจากความผิดพลาด

 

เส้นทางเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Bitkub ใช้เวลาเพียง 3 ปี 10 เดือน แต่เป็น 8 ปีบนเส้นทางความสำเร็จที่สกัดจากความผิดพลาด ที่ส่งให้ "ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา" ซึ่งกำลังขึ้นแท่นเศรษฐีหน้าใหม่ในวัยเพียง 31 ปี

 

หนึ่งในจิ๊กซอร์สู่ความสำเร็จของ "ท๊อป จิรายุส" ก็คือความมุ่งมั่นในความเชื่อ ที่เจ้าตัวย้ำอยู่เสมอว่า "การเงินจะต้องเปลี่ยนไปในอนาคต" และสกัดความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะสื่อสารธุรกิจด้านการเงินดิจิทัลให้คนเข้าใจ   

 

"ผมโชคดีที่ทำธุรกิจในวงการเดิม  ผมเคยทำบริษัท 'Coins.co.th' ซึ่งเป็นบริษัทบิทคอยน์บริษัทแรกๆ ของประเทศไทย ผิดพลาดมาก็เยอะ  ล้มมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราโต พอมาทำบริษัทใหม่ที่สอง มันไม่ล้มแล้ว ขี่จักรยานเป็นแล้ว อยู่ที่ว่าต้องขี่เร็วขึ้น " 
 

 

ท๊อป จิรายุส ตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้  Bitkub จะมีรายได้รวมแตะ 5,000 ล้านบาท และประมาณกำไรขั้นต่ำ 2,000 บาท ซึ่งหากเป็นไปตามแผน นั่นหมายความปี 64 บริษัทจะมีรายได้เติบโตกว่า 1,400% 

 

"วันนี้ Bitkub เป็นยูนิคอร์นแล้ว และเป้าหมายผมก็คือ จะเปลี่ยน Bitkub ให้เป็นสิ่งที่ประเทศไทยขาดไม่ได้ เป็น Must have วงการเงินต้องเป็นของคนไทย ซึ่งเรายังมีโอกาส เพราะ Bitkup  มีลูกค้า 2.3 ล้านราย เราดูแลสินทรัพย์ลูกค้ามูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ยังโตได้กว่า 2 เท่าเทียบกับประชากรไทย 70 ล้านบาท " ท๊อป จิรายุส กล่าวตอนหนึ่งในรายการ "วู้ดดี้ เอ็กซ์คลูซีฟ.  

 

"ท๊อป จิรายุส" เศรษฐีหน้าใหม่วงการเงินดิจิทัล 

 

นอกจากความสำเร็จ Bitkub ดังที่กล่าว ก็ยังรวมถึง Value ในตัวเขาบนเส้นทางการเงินดิจิทัล เพราะหากประเมิน โครงสร้างผู้ถือหุ้นในบจก.บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่"ท๊อป จิรายุส" ถือหุ้นสัดส่วน  23.87% การที่ บล.ไทยพาณิชย์ เข้ามาลงทุนโดยถือหุ้นมูลค่า 17,850 ล้านบาท คิดเป็น 51% ของมูลค่ารวมของบริษัท 35,000 ล้านบาท นั่นหมายความหากดีลนี้ประสบความสำเร็จ ตามที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกปี 2565 

 

"ท๊อป จิรายุส" จะได้รับเงินลงทุนในสัดส่วนที่ขาย 12.17% ของวงเงิน 17,850 ล้านบาท ( 51% ) คิดเป็นเงินที่ได้รับ 4,259.50 ล้านบาท และยังคงมีหุ้นที่ถือใน Bitkub ที่เหลือสัดส่วน 11.69% มูลค่า 4,091 ล้านบาท รวมมูลค่าราว 8,350 ล้านบาท  ขึ้นแท่นระดับเศรษฐีหน้าใหม่ของวงการเงินดิจิทัลโดยปริยาย.