6 พ.ย.2564 - ปฎิเสธไม่ได้ว่า กระแส การลงทุน ใน สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ของทั่วโลก รวมถึง ในไทย กำลังมาแรงฉุดไม่อยู่ ยิ่งโดยเฉพาะล่าสุด ธนาคารใหญ่ SCB เข้าซื้อกิจการ บิทคับออนไลน์ (Bitkub) สะท้อน Cryptocurrency เป็นส่วนสำคัญใน "อนาคตการเงิน" แน่นอน
อย่างไรก็ตาม การซื้อขาย ในสินทรัพย์ดิจิทัล ยังเป็นเรื่องใหม่ สำหรับการลงทุน หากไม่มีความรู้ อาจเป็นตกเป็นเหยื่อกลโกงได้
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ระบุ เพื่อเตรียมความพร้อม ชวนมา ทำความรู้จักและเข้าใจ เกี่ยวกับ Cryptocurrency เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกลโกง ฉบับมือใหม่
4 ข้อระวังการลงทุนในคริปโทฯ
ผู้สนใจ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถ เซ็กรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ที่แอปพลิเคชัน SECCheck First
ทั้งนี้ คริปโทเคอร์เรนซี หรือ เงินตราเข้ารหัสลับ (cryptocurrency, crypto currency) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งออกแบบ ให้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ที่ใช้วิทยาการเข้ารหัสลับเพื่อรับประกันธุรกรรม เพื่อควบคุมการสร้างหน่วยเงินเพิ่ม และเพื่อยืนยันความถูกต้องของการโอนทรัพย์เป็นรูปแบบหนึ่งของเงินดิจิทัล (digital currency) เงินทางเลือก (alternative currency) และเงินเสมือน (virtual currency)
เป็นเงินที่ควบคุมโดยกระจายศูนย์กลาง เทียบกับเงินดิจิทัลที่ควบคุมโดยศูนย์กลาง หรือกับระบบธนาคารกลาง การควบคุมแบบกระจายศูนย์จะทำผ่านบล็อกเชน ซึ่งเป็นฐานข้อมูลธุรกรรมสาธารณะ โดยใช้เป็นบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย
ขณะความถูกต้องตามกฎหมายของคริปโทเคอร์เรนซีจะต่างกันอย่างสำคัญระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยยังไม่ชัดเจนหรือยังเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในหลายประเทศ แม้จะมีบางประเทศที่อนุญาตให้ใช้และแลกเปลี่ยนได้อย่างชัดแจ้ง บางประเทศก็ได้ห้ามหรือจำกัดการใช้ และคล้าย ๆ กัน องค์กรของรัฐบาลต่าง ๆ รวมทั้งศาลก็พิจารณาบิตคอยน์ต่าง ๆ กัน ธนาคารกลางจีนได้ห้ามสถาบันการเงินในจีนไม่ให้บริหารจัดการบิตคอยน์ในช่วงการยอมรับที่เกิดอย่างรวดเร็วต้นปี 2014 ในรัสเซีย แม้คริปโทเคอร์เรนซีจะถูกกฎหมาย แต่การซื้อสินค้าด้วยเงินตรานอกเหนือจากรูเบิลก็ยังผิดกฎหมาย
ข้อมูล : วิกิพีเดีย