เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ระบุชัดยังไม่สายลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด  กล่าวในช่วงเสวนา “เงินดิจิทัล ไปต่อ หรือ พอแค่นี้”   ในงานสัมมนาออนไลน์ “Wealth Virtual Forum 2021 ลงทุนอย่างไรให้รวย” จัดโดย "ฐานเศรษฐกิจ"ร่วมกับ กรุงเทพธุรกิจ   ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ตอนนี้ยังไม่สาย  โดยเริ่มเห็นการนำใช้งานคริปโท  เพย์เม้นต์  

ไนจีเรีย  มีการลงทุน บิตคอยน์เพื่อนำผลตอบแทนไปสร้างโครงสร้างพื้นฐานประเทศ  เช่น โรงเรียน    โดยประเทศแอฟริกา  หรือ อเมริกาใต้ ที่ขาดโครงสร้างพื้นฐานธนาคาร  ส่วนใหญ่จะมีการลงทุนบิตคอยน์  เพราะเป็น Peer to Peer   มีความปลอดภัยสูง  เข้ามาใช้จนเกิดความคุ้นเคย

“บิตคอยน์ หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ทำหน้าที่ได้เหมือนทองคำ  ทองคำไม่มีแวลูเหมือนกัน  แต่ยอมรับหรือเชื่อว่ามีแวลู   คริปโท ก็เหมือนกัน แต่คริปโทต้องเลือกเยอะ ทั้ง บิตคอยน์   อีเทอเลียม  ซึ่งการลงทุนต้องมีการศึกษา และพิจารณา  โดยสินทรัพย์ดิจิทัลจะสร้างให้เกิดเงินเฟ้อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกลงทุน  ซึ่งเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ และการยอมรับ"

นายอัฏฐ์   กล่าวต่อไปว่าการระดมทุน  ICO กับ IPO ไม่ต่างกัน  แต่การระดมทุน  ICO มีความยืดหยุ่นมากกว่า  สามารถเขียนสมาร์ทคอนแทค  ให้เป็นไฮบริด และบล็อกเชน เป็นตัวดิสทริบิวชัน   โดยการออกโทเคน  สามารถเลือกออกได้ เช่น โรงงาน  สามารถเลือกออกโทเคนเฉพาะไลน์ผลิต  ไม่ได้ออกโทเคนทั้งโรงงาน

“เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ  คริปโท  ได้  โดยตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีการใช้คริปโทซื้อขายที่ดิน   ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต  อย่างไรก็ตามคริปโท ไม่ได้มาแทนเงินปัจจุบันทั้งหมด  ส่วน การยอมรับคริปโท ในแง่การซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้น ตอนนี้คนใช้งานมากชึ้น  โดยโควิด ทำคนใช้โมบายแบงก์กิ้ง  แม่ค้าไม่รับเงินสด  แม่ค้าเชื่อในระบบแบงก์กิ้ง  สำหรับบล็อกเชนก็เช่นเดียวกัน  สามารถมูฟแวลูจากวอลเล็ตนึงไปวอลเล็ตนึง  มีความปลอดภัยสูงกว่าด้วย   ที่สำคัญคริปโท เก็บไว้ในมือถือมูฟไปต่างประเทศ

ทั้งนี้มองว่าภาครัฐต้องเข้ามาดูแล คือ เรื่องความชัดเจนเรื่องภาษีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโท   วันนี้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์คุ้นเคยกับการไม่เสียภาษีจากกำไรซื้อขายหุ้น   แต่สำหรับคริปโทต้องเสียภาษี  ซึ่งต้องรอกระทรวงการคลังแก้กฎหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุน”