นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (XPG) เปิดเผยว่า เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล (XSpring Digital) บริษัทในเครือ ได้รับ 4 ไลเซนส์อย่างเป็นทางการ ได้แก่นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี, นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล, ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และผู้ค้าโทเคนดิจิทัล รวมถึงได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) พร้อมเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบ One-stop Service เจ้าแรก ๆ ในไทย ผ่านการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยเงินทุนกว่า 10,000 ล้านบาท รองรับการขยายตัวตลาดเงินดิจิทัลทั่วโลกที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 40 ล้านล้านบาทในปี 2565
“หลังจากบริษัทได้ประกาศแผนธุรกิจเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในการก้าวสู่กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร และต่อยอดความเชี่ยวชาญทางการเงินปัจจุบันสู่บริการทางการเงินระบบดิจิทัล (Digital Financial Service) โดยชู 3 จุดแข็ง ได้แก่ พันธมิตร การเพิ่มทุนที่แข็งแกร่ง และการถือครองไลเซนส์ที่พร้อมให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร โดยในส่วนการเพิ่มทุน เดิมเอ็กซ์สปริงมีเงินทุนจากสัดส่วนผู้ถือหุ้น 3,094 ล้านบาท และได้เพิ่มสัดส่วนการเพิ่มทุนอีก 7,111 ล้านบาททำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องทางการเงินสูงด้วยเงินทุนในมือกว่า10,000 ล้านบาท พร้อมนำไปทุ่มพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆ ของบริษัท ซึ่งหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะเน้นการพัฒนามากเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ตลาดเงินในปัจจุบันคือธุรกิจระบบดิจิทัล โดยมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนรูปแบบดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับบริการทางการเงิน โดยมีบริษัทในเครือเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจระบบดิจิทัลอยู่คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเพิ่มทุน เอ็กซ์สปริงได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจ “Transformation & Leap Forward” เต็มรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในโครงการตามวิสัยทัศน์นี้คือการที่ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผ่านการรับรองเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) และได้เสนอขาย “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ” (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก่สาธารณชนและทำยอดขายหมดจนประสบความสำเร็จอย่างสูง
สำหรับการบริการแบบ One-stop Service ของเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีความสะดวกสบายให้นักลงทุนไม่ต้องยุ่งยากไปเปิดบัญชีกับExchange อื่น โดยหลังจากนี้จะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อให้รองรับธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครบจบในจุดเดียวโดยใช้อินเตอร์เฟซที่ใช้ง่ายในแบบ User-friendly เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวกสบายจากทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถ monitor พอร์ตของตัวเองได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายในตลาดแรกหรือในตลาดรองของแพลตฟอร์มพันธมิตรของเอ็กซ์สปริง
ขณะที่ ผลประกอบการของเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ครึ่งแรกของปี 2564 มีรายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุน 167 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุนของทั้งปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ 141 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 791% ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน บริษัทจึงเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งนี้ จะสามารถเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดได้ในปี 2565
นอกจากนี้ บริษัทยังมีพันธมิตรอีกหลายรายซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยผลักดันให้กลุ่มเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล สามารถบรรลุเป้าหมายการก้าวเป็นผู้นำการให้บริการทางการเงินและการลงทุนแบบครบวงจร ที่จะเปลี่ยนโลกธุรกิจการเงินการลงทุนเดิม ๆ สู่นวัตกรรมการเงินการลงทุน เชื่อมโยงโลกการเงินการลงทุนปัจจุบันและโลกบริการการเงินการลงทุนดิจิทัลอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโลกการเงินและการลงทุนได้สะดวกและง่ายดาย ควบคู่กับการวางรากฐานระบบนิเวศด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งในประเทศไทยเพื่อผลักดันให้เมืองไทยเป็นเมืองต้นแบบของ Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก