นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้จระเข้ซึ่งมีขนาดที่สามารถนำไปใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กว่า 600,000 ตัวในฟาร์มเพาะเลี้ยงทั่วประเทศ ไม่สามารถจำหน่ายและแปรรูปเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออกได้ ส่งผลให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ต้องแบกภาระค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการเพาะเลี้ยง และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องมีต้นทุนค่าใช้จ่าย เช่น การฟอกหนัง การเก็บรักษา (Stock) การแปรรูป เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน รวมทั้ง ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ
คณะรัฐมนตรี (ครม.)จึงมีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่อง วงเงิน 1,800 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดประเภทสินเชื่อ คุณสมบัติเงื่อนไขผู้กู้ ดังต่อไปนี้
ประเภทสินเชื่อ
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
กำหนดระยะเวลาชำระคืน
คุณสมบัติผู้กู้
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ธุรกิจหนังจระเข้ เป็นที่นิยมของประเทศจีนและยุโรป โดยในปี 2561-62 ไทยส่งออกสินค้าจระเข้มากกว่า 7,000 ล้านบาท แต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีมูลค่าการส่งออกเพียง 785 ล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพต่อไปได้
ผู้ที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มีนาคม 2565 ที่ สำนักงานประมงจังหวัด และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-555-0555.