นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปี งบประมาณ 2565 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 162,410 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 510,234 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 82,000 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 305,973 ล้านบาท
ขณะที่ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิเดือนตุลาคม 2564 รัฐบาลจัดเก็บได้สุทธิจำนวน 194,336 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 10,868 ล้านบาท หรือ 5.9% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 13.2% โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร สูงกว่าประมาณการ 6,952 หรือ 6.1% และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 5,350 ล้านบาท หรือ 15.7% ตามลำดับ สาเหตุจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจกลุ่มพลังงานและธนาคารออมสิน สูงกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ 7,703 ล้านบาท หรือ 17.2% เนื่องจากประมาณการได้รวมผลของการปรับโครงสร้างภาษีไว้ ซึ่งชะลอการดำเนินการออกไปก่อนเนื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร ต่ำกว่าประมาณการ 663 ล้านบาท หรือ 7.7%