นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำเสนอขายกองทุนทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนประเภท Super Savings ชนิดเพื่อการออม (SSF) รวมกันมากที่สุดในอุตสาหกรรมถึง 50 กองทุน ครบทุกสินทรัพย์ เพื่อสร้างทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย และเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคล
สำหรับนักลงทุนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในกองทุน RMF และกองทุน SSF ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือน จึงขอเชิญชวนนักลงทุนที่ยังไม่ได้ลงทุนหรือลงทุนยังไม่เต็มสิทธิ์ของตนเองให้รีบลงทุนก่อนจะพลาดโค้งสุดท้ายนี้ โดยบริษัทฯ ได้นำแนะนำใน 3 ธีมเพื่อตอบสนองการลงทุนในระยะยาวคือ
ธีมกองทุนเด่น เป็นกองทุนที่บริษัทฯ ให้ความน่าสนใจและเน้นโอกาสเติบโตแบบยั่งยืน โดยแนะนำ
นอกจากนี้ ยังมีชนิดเพื่อการออมให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนเพิ่มเติมภายใต้ธีมนี้ ได้แก่ SCBPIN-SSF (ชนิดเพื่อการออม) และ SCBJAPAN(SSF) (ชนิดเพื่อการออม)
ธีมกองทุนระดับเมกะเทรนด์ เป็นกองทุนที่มีโอกาสเติบโตตามเทรนด์โลกทั้งสุขภาพและเทคโนโลยี โดยมองว่า เทรนด์ธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพ รวมถึงธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์การเติบโตของประชากร และความก้าวหน้าด้านการรักษาโรคนั้นจะเป็นตัวขับเคลื่อนในการสร้างโอกาสเติบโตได้เป็นอย่างดี จึงได้แนะนำ
สำหรับเทรนด์ด้านเทคโนโลยีนั้นมีกองทุนที่แนะนำ
ธีมกองทุนต่างประเทศมาแรง ครอบคลุมทั้งกลุ่มตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมองว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกด้วย GDP 20.94 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (ที่มา: World Bank) ประกอบกับมีบริษัทชั้นนำระดับโลกมาก โดยเฉพาะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี จึงได้แนะนำ
นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เรายังมีกองทุนชนิดเพื่อการออมให้นักลงทุนได้เลือกครบทุกดัชนี ประกอบด้วย SCBDJI(SSF) (ชนิดเพื่อการออม)
อีกทั้งยังมีกองทุนหุ้นตลาดยุโรป
ตลาดจีนที่เปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุนภายใต้ธีมนี้
เมื่อเร็วนี้ ๆ บริษัทฯ ยังได้เปิดเสนอขาย SCBWORLD(SSF) (ชนิดเพื่อการออม) เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI World Index โดยมีเป้าหมายให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI World Index อีกด้วย
“ช่วงนี้ถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายของปีแล้ว นักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีก็มิควรนิ่งนอนใจ การลงทุนด้วยเป้าหมายระยะยาวเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะช่วยสร้างวินัยในการออมระยะยาวให้กับนักลงทุน”นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
เพราะนอกจากจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีแล้ว การกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผลตอบแทนในระยะยาวมีเสถียรภาพมากขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ควรรอซื้อกองทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของทุกปี ควรทยอยซื้อสะสมทุกเดือนตั้งแต่ต้นปีโดยเลือกกองทุนที่ตอบโจทย์และตรงกับความเสี่ยงที่รับได้ของตนเองด้วย