ดาวโจนส์ปิดลบ 106 จุด กังวล PPI พุ่งหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

14 ธ.ค. 2564 | 23:59 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2564 | 07:04 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 106.77 จุด เมื่อคืนนี้(14 ธ.ค.) นักลงทุนวิตกว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,544.18 จุด ลดลง 106.77 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,634.09 จุด ลดลง 34.88 จุด หรือ -0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,237.64 จุด ลดลง 175.64 จุด หรือ -1.14%
    

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 9.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2553 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 8.8% ในเดือนต.ค.

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.64%  ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลง 1.27%

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น 0.62% โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้

ราคาหุ้นไฟเซอร์ ปรับตัวขึ้น 0.62% หลังไฟเซอร์เปิดเผยผลการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายซึ่งยืนยันว่า ยาแพกซ์โลวิดของทางบริษัทสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 89% 

 

นอกจากนี้ ยาแพกซ์โลวิดยังมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

 

นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
          

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.