นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะตัวแทนจากกรมสรรพากร ในคณะทำงาน 3 ฝ่ายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มกราคม กรมสรรพากรได้มีการประชุมหารือร่วมกับนายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ ในประเด็นเรื่องการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลในทางปฏิบัติที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสรรพากร โดยมีข้อสรุปจากที่ประชุม คือ
จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กรมสรรพากร และสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย พร้อมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการจัดเก็บภาษีจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุมผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักเทรด นักขุด ผู้ประกอบธุรกิจทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต รวมถึงรับความเห็นจากนักวิชาการด้านภาษีอากร
ส่วนเรื่องของการรับฟังความเห็นนั้น ในที่ประชุมได้มีการหารือและสรุปร่วมกันว่า จะมีการเผยแพร่แบบสอบถามที่มาจากการทำงานร่วมกันของคณะทำงานในรูปแบบของตัวเลือกในการปฎิบัติ (Options) แทนที่จะเป็นคำถามปลายเปิด เพื่อสะดวกต่อการนำเสนอแนวทางปฎิบัติที่เป็นรูปธรรมชัดเจน
สำหรับแบบสอบถามดังกล่าวทางสมาคมฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลทำการจัดส่งให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในชุมชนของสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ช่วยกันเสนอแนวทางก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่อีกครั้งภายในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งจะมีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการหาข้อสรุปเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดี แนวทางปฎิบัตินั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
"การดำเนินการทั้งหมดจะเกิดความชัดเจนและไม่กระทบต่อการยื่นภาษีของปี 2564"นายวินิจกล่าว
นายศุภกฤษฏ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยกล่าวว่า ประเด็นเรื่องของภาษีเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อวงการสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นอย่างมาก อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันสร้างแนวทางปฎิบัติที่จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้สามารถเติบโตไปได้ แม้อาจจะไม่สามารถตอบความต้องการของทุกคนได้ทั้งหมด แต่อยากให้ทุกฝ่ายมองถึงประโยชน์ส่วนรวม
"เชื่อว่าหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือก็จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้สามารถเดินไปข้างหน้าได้"นายศุภกฤษฎ์กล่าว