ดาวโจนส์ปิดร่วง 313 จุด แรงขายช่วงท้ายตลาด-วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

20 ม.ค. 2565 | 23:51 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2565 | 07:11 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (20 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้าย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด หรือ -0.89%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด หรือ -1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด หรือ -1.30%
         

ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในพุธ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ตลาดร่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนได้ส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้าย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ประกาศสนับสนุนให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก โดยประธานาธิบดีไบเดนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ  โดยการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

 

 ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ประกาศสนับสนุนให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก โดยประธานาธิบดีไบเดนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ  โดยการแสดงความเห็นของประธานาธิบดีไบเดนมีขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

 

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.94% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 2.79% หุ้นไนกี้ ลดลง 1.64% หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ดิ่งลง 4.43%"

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 286,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย และสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 231,000 ราย
         

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 4.6% สู่ระดับ 6.18 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 7.1% ในเดือนธ.ค.