26 ม.ค.2565- นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจ สบาย ยูทิลิตี้โทเคน ระบุ ในวงเสวนา : อนาคตสินทรัพย์ดิจิทัล ภาษี Cryto งาน The BIG ISSUE 2022 “อนาคตคริปโต อนาคตไทยแลนด์” ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เมื่อรัฐบาลต้องการเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซี่ จะทำอย่างไร ? ให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดและไม่เสียโอกาส
โดยนายวิรัช กล่าวว่า ในฐานะ เป็น 1 ในผู้ประกอบการ ที่เพิ่งกระโดดเข้าสู่การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ผ่านการ จัดตั้ง บริษัท สบาย ดิจิตอล จำกัด (SABUY Digital) เพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน แม้เบื้องต้น บริษัทไม่ได้คัดค้าน กรณีที่รัฐเตรียมเรียกเก็บ "ภาษีคริปโตเคอร์เรนซี่ " และพร้อมจะปฎิบัติตาม พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561
แต่การที่ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงาน ก.ล.ต.ออกกฎเข้ม ห้ามผู้ประกอบการเปิดให้ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโตฯ เป็นสื่อกลางการชำระเงินนั้น เปรียบเป็นการปิดช่องทางการทำธุรกรรม ซื้อ-ขาย ใหม่ๆ สำหรับผู้ค้าคนตัวเล็ก กลุ่มเอสเอ็มอี และ พ่อค้า - แม่ค้า นับเฉพาะที่อยู่ในแพลตฟอร์มการชำระเงินต่างๆ ของบริษัท มีราว 7 หมื่นราย หลังจาก ปฎิเสธไม่ได้ ว่า คนยุคใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อของผู้ค้าเบื้องต้น มีแนวโน้มจะใช้ เงินดิจิทัล หรือ คริปโตฯ เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ แทนเงินสด ในอนาคตมากขึ้น
นายวิรัช ยังระบุว่า การก้าวเข้ามาของบริษัท เพื่อต้องการเสนอตัวเป็น 1 ในผู้ให้บริการ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้าระดับรากหญ้า เช่น แท็กซี่ , พ่อค้า- แม่ค้า ในแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ ให้มีโอกาสค้าขายได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ภายใน SABUY Ecosystem เปลี่ยนโฉม กระเป๋าตังค์อิเล็กทรนิกส์ (e-wallet) ซึ่งรองรับ True Money Wallet , Rabbit Line Pay , Shopee Pay และ SABUY Money ไปสู่โลกการชำระเงินยุคใหม่ที่เข้าใกล้มาเรื่อยๆ
ทั้งนี้ มีความเห็นต่างออกไปกับการที่รัฐจะจำกัดการใช้เงินดิจิทัล และห้ามไม่ให้ธุรกิจรับเหรียญดิจิทัล แต่รัฐควรเปิดกว้าง ระบบ Payment Gateway สนับสนุน ผู้บริโภคทั้งเก่า และ ใหม่ หากวันนี้ จากเปลี่ยนจากเงินสด เปลี่ยนจาก e-wallet ไปสู่คริปโตฯ
" การออกกฎกติกา มัดอะไรแน่นไป มักจะแตกเสียหาย ในทางกลับกัน หากคลายจนหลวมก็คงจะร่วง เราเองพร้อมจะปฎิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่เป็นห่วง ว่าข้อจำกัดใหม่ จะกระทบคนตัวเล็ก สร้างผลกระทบให้สังคมเกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น รัฐเองมีหน้าที่สนับสนุน เตรียมความพร้อมให้พวกเขา เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ค้ารากหญ้าเสียเปรียบ "