ไม่ว่าเราจะคิดค้นกลยุทธ์ขึ้นเองหรือไปซื้อ Robot Trade ของนักพัฒนาคนอื่นมาใช้ สิ่งที่เราควรทำทุกครั้งคือทดสอบว่า สามารถทำกำไรได้จริงหรือไม่
คนส่วนใหญ่เมื่อเริ่มใช้โปรแกรมก็มักจะทดสอบด้วยการใช้จริงเลย หรืออาจจะแค่ดูจากผลการเทรดที่คนขายแสดงให้ดู ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจบไม่ค่อยสวยด้วยการขาดทุนและเราก็เลิกใช้แล้วก็ไปหา ระบบตัวใหม่ แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจธรรมชาติของการลงทุนซะก่อนจะทำให้เราไม่หวังอะไรที่เกินจริงจนทำให้เราต้องผิดหวัง
ในขั้นถัดไปเราต้องรู้วิธีการทดสอบกลยุทธ์เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำกำไรได้จริง ทั้งหมดทั้งมวลคือเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุนนั้นเอง
- เทคนิคการทดสอบ Robot Trade ที่พัฒนาเพื่อให้ทำกำไรได้จริง
- แบ่งช่วงการทดสอบ (Train-Test split) ข้อนี้เป็นข้อที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำ คนส่วนใหญ่มักจะทดสอบกลยุทธ์แบบครั้งเดียวดูผลลัพท์แล้วก็นำไปใช้เลย โดยแทนที่เราจะทดสอบกลยุทธ์แค่ครั้งเดียวเราก็ควรแบ่งช่วงตามเวลาเช่น 5 ปีแรก กับ 5 ปีหลัง หรือถ้าเป็นหุ้นก็สามารถแบ่งเป็น 100 ตัวแรกและ 100 ตัวถัดไป โดยเราจะทดสอบกับข้อมูลช่วงแรก (Train set) แล้วเมื่อผลออกมาดีก็ค่อยไปทดสอบกับข้อมูลอีกชุด (Test set)
- ทดสอบความไวต่อตัวแปร (Parameter Sensitivity test) โดยทั่วไปการพัฒนา Robot Trade หรือการใช้ตามท้องตลาด จะมีตัวแปรให้ตั้งค่าไม่ว่าจะเป็น Technical Indicator EMA, RSI, MACD แล้วเราก็มักจะเปลี่ยนตัวแปรไปเรื่อยๆเช่นลอง EMA20, EMA50, EMA70 ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่มือใหม่มักมองข้ามนั้นคือ Overfit ซึ่งทำให้ผลทดสอบอาจจะดูดีแต่ไม่สามารถทำกำไรเงินจริงได้ วิธีแก้คือต้องทดสอบความไวต่อตัวแปรเช่นถ้าเราเปลี่ยน EMA20 เป็น EMA15 หรือ EMA25 กลยุทธ์เรายังทำกำไรได้หรือไม่ หรือขาดทุนบักโกรกไปเลย หรืออีกทางที่ผมชอบใช้คือใช้ตัวแปรให้น้อยที่สุดตั้งแต่แรกหรือใช้ตัวแปรที่สมเหตุสมผลแล้วไม่ต้องไปปรับค่าอีก
- ทดสอบด้วยเงินจริงจำนวนเล็กๆ (Live test) ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก เราต้องทดสอบด้วยเงินจริงจำนวนเล็กๆ อย่างน้อย 3 เดือนก่อนเสมอ การทดสอบในกระดาษ(Paper Trade) นั้นไม่เพียงพอ เพราะการเทรดจริงนอกจากจะเป็นการทดสอบสภาพจิตใจว่าถ้าพอร์ตขึ้นลงตามนี้เราจะรับได้หรือไม่ ยังเป็นการจำลองการใช้งานว่าติดขัดอะไรหรือไม่ เช่นตอนทดสอบเราอาจจะซื้อที่ราคาปิด แต่ในชีวิตจริงเราอาจจะไม่ว่างเฝ้าจอช่วง 16:30 ของทุกวัน ก็ทำให้การใช้จริงและการทดสอบมีความคาดเคลื่อน
การทดสอบกลยุทธ์นั้นนอกจากเราจะได้มั่นใจว่าสามารถทำกำไรได้จริงแล้ว เรายังเข้าใจสถิติต่างๆของกลยุทธ์นั้นๆ เช่นอัตราการชนะ เวลาชนะได้กำไรกี่ % เวลาแพ้ขาดทุนกี่ % ทำให้ตอนใช้จริงเราจะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- เคล็ดลับในการใช้ Robot Trade ทำกำไรอย่างยั่งยืน
- การมีทัศนคติห้ามขาดทุน ไม่ว่าเราจะพัฒนาเองหรือซื้อโปรแกรมมาใช้ การพยายามรักษาเงินต้นถือเป็นความสำคัญสูงสุดเสมอ
- การเข้าใจธรรมชาติของตลาด ถ้าเราเข้าใจพฤติกรรมราคาของสินทรัพย์ เราจะมีไอเดียในการกำไรเยอะๆได้เอง เมื่อไม่ขาดทุนและทำกำไรได้เยอะเราก็จะประสบความสำเร็จในที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้ว Robot Trade ที่สามารถทำกำไรในตลาดหุ้นไทยได้นั้นจะเป็นกลยุทธ์เชิงโมเมนตัม ไม่ว่าจะเป็นการทะลุแนวต้าน การทะลุราคา All Time High หรือกลยุทธ์ที่ลงทุนในหุ้นที่กำไรเติบโต ส่วนในตลาดคริปโตนั้นการซื้อแล้วถือยาวมักจะทำกำไรได้มากกว่าการซื้อๆขายๆเพราะจะทำให้เราไม่พลาดโอกาสในการรันเทรนรอบใหญ่
สุดท้ายนี้ก่อนซื้อ Robot Trade ใดๆมาใช้ แล้วรู้สึกว่ามันดีเกินจริงเช่นปลอดภัย ทำกำไรทุกวัน หรือได้กำไรเดือนละ 100% ให้ตอบคำถามตัวเองก่อนเสมอว่า ถ้าดีจริงทำไมเขาต้องนำมาขายเรา เขาลงทุนไม่ดีกว่าหรือ เพื่อที่เราจะได้ไม่ตกเป็นหยื่อของกลยุทธ์จอมปลอมเหล่านั้น