นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการส่งเสริมการลงทุนและการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ "EV" ของประเทศไทย เริ่มมีความชัดเจนแล้ว และคาดว่าคณะกรรมการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย (บอร์ดอีวี) จะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้เร็วๆนี้
เบื้องต้นคาดว่าจะลดภาษีเป็นแพ็คเกจ ทั้งภาษีนำเข้ารถยนต์ ซึ่งปัจจุบันมีความแตกต่างกันอยู่ในหลายภูมิภาค เช่น บางประเทศเก็บ 0% บางประเทศ 20% - 40% ให้ลดลงมาในระดับที่แข่งกันกันได้ รวมถึงอัตราภาษีสรรพสามิตก็ปรับจะลดลงด้วย
“รัฐบาลจะมีมาตการรูปแบบเงินอุดหนุน เพื่อส่งเสริมคนไทยมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย เช่น รถขนาดใหญ่ที่ให้กำลังวัตต์สูง อาจจะมีส่วนลดมากกว่า 150,000 บาท ขณะที่รถขนาดเล็กอาจจะมีส่วนลดราคาหลายหมื่นบาท ซึ่งยังรวมถึงรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าด้วย” นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวอีกว่า มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในด้านภาษี ไม่ใช่การให้เปล่า แต่ยังมีเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการหรือใช้สิทธิเพื่อส่งเสริมการลงทุนในไทยระยะยาว เช่น การเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย เพราะเจตนาหลักของรัฐบาลต้องการให้เกิดการลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามา แทนรถยนต์พลังงานสันดาป หากบริษัทไหนเข้าร่วมมาตรการ และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 100,000 คัน ก็มีเงื่อนไขต้องเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย 150,000 คัน ภายใน 2-3 ปี เป็นต้น
ส่วนประเด็นสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น ขณะนี้หลายภาคส่วนเตรียมขยายจุดชาร์จไฟเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์อีวี ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตและเชี่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา ขณะเดียวกันก็มีแผนจะเสนอให้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เช่น จุดชาร์จรถยนต์ที่บ้าน เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และประหยัดค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ในระยะยาวด้วย