SMKเผยปี64ขาดทุนสุทธิ 4,753ล้านบาทเฉพาะจ่ายเคลมโควิดกว่า 8,141ล้านบาท

19 ก.พ. 2565 | 04:31 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2565 | 11:46 น.

สินมั่นคงประกันภัย เผยผลดำเนินงานปี 64 ขาดทุน 4,753 ล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 727% เหตุจ่ายค่าสินไหมทดแทน 13,332.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,009.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอัตรา 110.85% จากปี 2563

สินมั่นคงประกันภัย เผยผลดำเนินงานปี 64 ขาดทุน 4,753 ล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 727% เหตุจ่ายค่าสินไหมทดแทน 13,332.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,009.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอัตรา 110.85% จากปี 2563

 

แยกเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 5,191.66 ล้านบาท เฉพาะค่าสินไหมทดแทนโควิด-19 กว่า  8,141.32 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในปี 2563  

 

 

นายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2565)

 

โดยระบุว่าผลขาดทุนสุทธิสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และ 2563 จำนวน 4,753.81 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 757.36 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราลดลง 727.68% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 757 ล้านบาท คิดเป็นผลการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น 5,511.17 ล้านบาท หรือประมาณ 727.68%

โดย  1. รายได้รวมของบริษัทฯ เท่ากับ 10,898.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484.80 ล้านบาท จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 10,413.96 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.66 เกิดจากสาเหตุหลัก ดังนี้

1.1 เบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้เท่ากับ 9,850.45 ล้านบาท ลดลง 220.93 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 2.19 เป็นผลมาจากส ารองเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น จากปีก่อนจ านวน 743.46 ล้านบาท

1.2 รายได้และกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 705.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 206.01 เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น 724.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 501.10 จากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อทำกำไร และกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้น 86.36 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,555.62 เป็นผลจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

2. ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 16,405.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,917.86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.91 จากปี 2563 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 9,488.13 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลัก ดังนี้

2.1 ค่าสินไหมทดแทนเท่ากับ 13,332.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,009.68 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 110.85 จากปี 2563 โดยแยกเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่นๆ 5,191.66 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนโควิดเท่ากับ 8,141.32 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อในปี 2563

3. กำไรจากการรับประกันภัย มีผลขาดทุนจำนวน 6,406.51 ล้านบาท เนื่องจากการรับประกันภัยโควิดประสบผลขาดทุนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 7,632.56 ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่นๆมีผลกำไร จ านวน 1,226.06 ล้านบาท

 

โดยสรุป สาเหตุหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานประสบผลขาดทุนสูงถึง 4,753.81 ล้านบาท มาจากจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดทีเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งมีจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิด เพียง 11.56 ล้านบาท