นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัดเปิดเผยว่า กลุ่ม Oil & Gas จะยังเป็นกลุ่มที่ปรับตัวแข็งแกร่งล้อไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลก มองกลุ่ม Soft commodities ที่ราคาขายมีความสัมพันธ์กับราคาโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะได้ประโยชน์จากการทำจุดสูงสุดใหม่ของราคา Commodities ด้วยเช่นกัน
ส่วนหลุมหลบภัยในระยะสั้นเรายังคงมองไปยังกลุ่ม Healthcare ที่ไม่ได้เป็นแค่กลุ่ม Defensive เท่านั้น แต่ยังเป็นกลุ่มที่ได้อานิสงส์ทางอ้อมจากสถานการณ์โควิดภายในประเทศ และเป็นกลุ่มที่ทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อจากความสามารถในการปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการได้ดีกว่ากลุ่มอื่นๆ นอกจากนั้น มองไปยังกลุ่มบริหารหนี้ ที่มักจะมีแนวโน้มที่ดีเวลาเศรษฐกิจกลับมามีความเสี่ยงอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน กลุ่มที่ต้องระมัดระวังอย่างมากคือกลุ่มที่มีสัดส่วนโภคภัณฑ์เป็นต้นทุนการผลิต/บริการในระดับสูง เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า สายการบิน เดินเรือ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ รับเหมาก่อสร้าง ปศุสัตว์ เครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของคนที่ลดลง เช่น กลุ่ม Consumer discretionary กลุ่มปั๊มน้ำมัน เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่มีความเกี่ยวโยงทางด้านภาคการท่องเที่ยวเช่น โรงแรม แนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อนเช่นเดียวกัน
ภาพของดัชนี SET และกลยุทธ์การลงทุน - หลังจากที่เราแนะนำให้ชะลอการลงทุนมาตลอดก่อนหน้านี้ มองว่าแม้จะตัดประเด็นเรื่องของ Geopolitical risk ออกไป SET Index ก็มี Valuation ที่อยู่ในระดับสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มองจุดการเข้าซื้อกลับที่ปลอดภัยและมี Margin of safety ในระดับสูงได้แก่ระดับดัชนีที่ 1635 จุดลงมา ซึ่งเป็นระดับกึ่งกลางจากกรอบแนวต้านและแนวรับของเราตามโมเดล Earning yield gap ที่ 1740 และ 1530 จุดตามลำดับ