นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 2564 บริษัทฯ พลิกมีกำไรสุทธิ 103.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 119.2% จากปีก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ 537.3 ล้านบาท ผลจากมีรายได้รวม 5,058.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,408.1 ล้านบาท หรือ 90.8% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 2,650.7 ล้านบาท นับว่าเกินกว่าเป้าหมายที่ประมาณการรายได้ปี 2564 เติบโตเฉลี่ย 30% หรือรายได้ราว 3,500 ล้านบาทเท่านั้น
ผลประกอบการปี 2564 ของ PRINC เติบโตอย่างโดดเด่นเกินกว่าเป้าหมาย เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก สามารถสร้างรายได้ 4,742.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,290.3 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น จากการแพร่ระบาดรุนแรงของโควิด-19 รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจคัดกรองโควิด-19 การรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งผู้ป่วยที่รับการตรวจคัดกรองฯ จากโรงพยาบาลในเครือ โรงพยาบาลสนาม และฮอสพิเทล
อีกทั้ง ยังมีรายได้จากการจำหน่ายวัคซีนทางเลือก การให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการปิดพื้นที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 และการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยไม่มีการกักตัว (Test and Go) ทำให้ผู้ป่วยในประเทศและต่างประเทศกลับมาใช้บริการมากขึ้น ทำให้โรงพยาบาลในเครือทุกแห่งมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลประกอบการของโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 641 ซึ่งดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้บริษัทฯโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ปัจจุบันรวม 12 แห่ง ใน 10 จังหวัดและคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ 16 แห่ง และปีนี้อยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการก่อสร้างและบริหารโรงพยาบาลเพิ่มเติมอย่างน้อย 2 แห่ง และเปิดธุรกิจใหม่ด้าน Health and Wellness เพิ่มเติม โดยยังคงเป้าหมายขยายจำนวนโรงพยาบาลให้ครบ 20 แห่ง และคลินิกใกล้บ้านใกล้ใจให้ครบ 100 แห่ง ภายในปี 2566
“บริษัทฯสามารถผลักดันให้ผลประกอบการพลิกเป็นบวกได้ตามเป้าหมาย และจะสามารถรักษาการเติบโตอย่างโดดเด่นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 นี้ เนื่องจากประเมินว่า ธุรกิจโรงพยาบาลยังคงได้รับผลเชิงบวกจากความร่วมมือกับภาครัฐในการดูแล รักษาและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศต่อไปอีกอย่างน้อย 3-6 เดือน โดยตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2565 คาดว่าจะมี 6,800 ล้านบาท หรือเติบโต 38%” นายธานีกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน หลังการแพร่ระบาดของโควิค-19 และต้องพิจารณานำเทคโนโลยีทางการแพทย์หรือ Health Tech เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการโรงพยาบาล รวมถึงใช้ในการรักษาและอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยมากขึ้น
อีกทั้งต้องกระจายและขยายฐานลูกค้าผู้มาใช้บริการลงไปในระดับชุมชน และขยายการให้บริการเพื่อตอบสนองการรักษาและความต้องการของคนไข้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น คลินิกฟื้นฟูผู้ป่วยหลังติดเชื้อโควิด-19, การขยายคลินิกเฉพาะทาง หรือศูนย์การแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลเครือข่าย เช่น ศูนย์มะเร็งพิษณุเวชฮอไรซัน โรงพยาบาลพิษณุเวช ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ร่วมมือกับบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และเตรียมขยายไปโรงพยาบาลแห่งอื่นๆในเครือต่อไป
ดังนั้น ด้วยผลประกอบการที่เติบโตพลิกมีกำไรสุทธิในปี 2564 ส่งผลให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง พบว่าส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีจำนวน 9,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดสิ้นปี 2563 ที่มีจำนวน 8,297 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(D/E) ลดลงมาอยู่ที่ 0.67 เท่า จากงวดปี 2563 อยู่ที่ 0.73 เท่า