"สงครามรัสเซีย-ยูเครน"ทุบหุ้นไทยเช้าดิ่งหนัก 43 จุด

07 มี.ค. 2565 | 06:19 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2565 | 13:57 น.

หุ้นไทยดิ่งหนัก 43.22 จุด ก่อนดัชนี SET ปิดที่ 1,637.93 จุด ลดลง 33.79 จุด หรือ-2.02% มูลค่าการซื้อขายกว่า 6.9 หมื่นล้านบาท สงครามรัสเซีย-ยูเครน กดดัน ด้านประธาน FETCO "ไพบูลย์" มองกระทบระยะสั้นตาม Sentiment มั่นใจระยะกลางถึงยาว หุ้นไทยยังเป็นขาขึ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ (7มี.ค.65 ) ที่ระดับ 1,637.93 จุด ลดลง 33.79 จุด หรือ -2.02% มูลค่าการซื้อขาย  69,437.46 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยทำระดับสูงสุด 1,655.19 จุด และระดับต่ำสุด1,628.50 จุด หรือลดลงถึง 43.22 จุด

 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยระยะสั้นคาดจะปรับลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หากมีการถล่มขายหุ้น นักลงทุนต้องปรับน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทย ตามสัดส่วนตลาดหุ้นอื่นที่ลดลง
 

อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของดัชนีระยะสั้นไม่ได้ถูกกำหนดด้วยปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในตลาด เป็นเพียง Sentiment แต่ในระยะกลางถึงยาวยังเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยเป็นขาขึ้น และปลายปีน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครนอยู่ในวงจำกัด  รวมถึงรัฐบาลยังมีช่องวางในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน  ในระยะสั้นแนะนำใช้ความระมัดระวังไม่รีบร้อนลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาว ยังแนะนำถือหุ้นไทย โดยสัดส่วนการลงทุนระหว่างสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนรับได้
 

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดได้แก่
         

 

  • PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย  3,848.21 ล้านบาท  ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท  
  • KBANK  มูลค่าการซื้อขาย  3,281.09 ล้านบาท  ปิดที่ 155.00 บาท  ลดลง 6.00 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย  2,744.00 ล้านบาท  ปิดที่  38.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
  • SCC มูลค่าการซื้อขาย  2,294.80 ล้านบาท  ปิดที่ 373.00 บาท  ลดลง 8.00 บาท
  • BANPU  มูลค่าการซื้อขาย  2,024.10 ล้านบาท  ปิดที่  11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท