‘ไมเนอร์’ ขายหุ้นกู้แบบไร้ใบ 21- 23 มี.ค.นี้ จองซื้อขั้นต่ำเพียง 1 หมื่นบาท

15 มี.ค. 2565 | 12:42 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มี.ค. 2565 | 19:42 น.

ไมเนอร์ หรือ MINT พร้อมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นกู้แบบไร้ใบ (Scripless) MINT e-Bond 3 ชุด ในวันที่ 21 – 23 มีนาคมนี้ จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.00-3.60% ต่อปี จองซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาทเท่านั้น

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 21 – 23 มีนาคม 2565 MINT จะเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นกู้แบบไร้ใบ (Scripless)  MINT e-Bond ครั้งที่ 1/2565  ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

 

หุ้นกู้ดังกล่าวมี  3 ชุด ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี 2 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.60% ต่อปี และหุ้นกู้ดิจิทัลชุดที่ 3 อายุ 4 ปี 4 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.30% ต่อปีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งถือเป็นทางเลือกการลงทุนแก่ผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลด 10% จาก ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ฯ 6 แบรนด์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ เดอะพิซซ่า คอมปะนี, บอนชอน, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เล่อร์, เบอร์เกอร์คิงส์ และเดอะ คอฟฟี่ คลับ (ยกเว้นสาขาในสนามบิน) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ไปตลอดอายุหุ้นกู้ที่เลือกลงทุน (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)

 

บริษัทฯ และหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ ‘A’ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ประกาศเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565) กำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณของ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

หุ้นกู้ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จะเสนอขายผ่านช่องทางต่างๆ ของสถาบันการเงิน 5 แห่งที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทรในฐานะหน่วยงานขาย)

 

ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 และชุดที่ 2 จะถูกฝากเข้าพอร์ตหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนเท่านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ลงทุนไม่ต้องดูแลรักษาใบหุ้นและยังคงได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นตามวิธีการปกติ ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่มีพอร์ตหลักทรัพย์สามารถเปิดพอร์ตผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้

 

ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นกู้ดิจิทัล จะเปิดจองซื้อผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ โดยทำการดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สมัครบริการวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้และทำแบบประเมินความเสี่ยงผู้ลงทุน และเติมเงินใน Wallet ID ให้พร้อม เพื่อจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ของวันที่ 21 มีนาคม ถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2565 หรือจนกว่าจะมีผู้จองซื้อเต็มจำนวน

 

นอกจากนี้ ผู้ลงทุนที่ได้รับการจัดสรรหุ้นกู้ สามารถซื้อขายหุ้นกู้ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ในตลาดรองตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ทางแอปฯ เป๋าตังได้ตั้งแต่วันออกหุ้นกู้เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด หากผู้ลงทุนต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพื่อรับใบหุ้นกู้ในภายหลัง สามารถแจ้งนายทะเบียนหุ้นกู้หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดพอร์ตให้ดำเนินการได้ (มีค่าธรรมเนียม)

 

"MINT  มีความมั่นใจในศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2565  ทั้งธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและกลับเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ทยอยฟื้นตัวและการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การลดหรือยกเลิกการกักตัว และการผ่อนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รวมถึงการที่ประเทศไทยที่กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการ Test & Go ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

 ส่วนสถานการณ์ราคาวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ วางแผนรับมือด้วยการจัดซื้อให้เพียงพอต่อการใช้งานไปอย่างน้อยถึงไตรมาส 2/2565 และได้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับผู้ผลิต รวมถึงกลยุทธ์การจัดการเมนูและโปรโมชั่นเพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุน ขณะเดียวกัน  ได้เตรียมกลยุทธ์จากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยการมุ่งหาลูกค้าจากนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ เช่น ลูกค้ากลุ่ม Middle East, European หรือ American เพื่อมาทดแทนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่อาจหายไป