นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 65 ที่สามารถจัดเก็บได้เกินเป้าหมายกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท นั้น ยังต้องรอสรุปผลการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ในช่วงเดือนเมษายน 65 อีกครั้ง เนื่องจากเป็นเดือนที่จะสิ้นสุดการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ก็จะทำให้เห็นยอดรายได้ของรัฐที่ชัดเจนมากขึ้นและจะสามารถประเมินการทิศทางจัดเก็บรายได้ของรัฐประจำปีงบประมาณ 65 ได้ ซึ่ง ณ ขณะนี้ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
“เงินรายได้ที่จัดเก็บได้เกินมา ก็จะเป็นตัวช่วย แต่ยังต้องรอตัวเลขเดือน เม.ย. ก่อน ซึ่งจะเห็นชัดเจนขึ้น ถ้าได้ตามเป้าก็ไม่น่ากังวล ถ้ามีส่วนเกินก็เอาออกมาช่วยประชาชน แต่คงไม่ถึงขั้นต้องตั้งเป็นงบกลาง เพราะกว่าจะออกกฎหมาย กว่าจะผ่านสภาฯ ต้องใช้เวลา แต่อาจออกมาตรการช่วยเหลือรูปแบบอื่น เช่น การลดภาษี เป็นต้น” ปลัด ก.คลัง กล่าว
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการเดือน พ.ค. นี้ ออกไปอีกหรือไม่นั้น ยังต้องรอประเมินสถานการณ์ช่วงใกล้สิ้นอายุมาตรการอีกครั้ง เพราะต้องสร้างความสมดุลระหว่างผลกระทบของประชาชน และฐานะทางการคลังด้วย