ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,955.89 จุด เพิ่มขึ้น 94.65 จุด หรือ +0.27% , ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,575.52 จุด เพิ่มขึ้น 32.46 จุด หรือ +0.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,354.90 จุด เพิ่มขึ้น 185.60 จุด หรือ +1.31%
ในช่วงแรกของการซื้อขาย ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง หลังตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ Inverted Yield Curve เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว และเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.6361% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.6004%
อย่างไรก็ดี ภาวะ Inverted Yield Curve เมื่อคืนนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ โดย ณ เวลา 19.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีร่วงลงสู่ระดับ 2.534% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลงสู่ระดับ 2.556%
นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 8.01% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 2.31% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.56% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ปรับตัวขึ้น 0.48% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 0.5%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่า เทสลาจะขอการอนุมัติจากนักลงทุนในการเพิ่มจำนวนหุ้น เพื่อที่บริษัทจะทำการแตกหุ้นและจ่ายปันผลเป็นหุ้นให้กับนักลงทุน
ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ปรับตัวลง 0.74% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 0.65% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.43% หุ้นเวลส์ ฟาร์กโก ร่วงลง 1.43%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน หลังจีนประกาศล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ ร่วงลง 4.44% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4.06% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 3.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.81% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.74%
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวดาวโจนส์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 460,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.7%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเจรจาแบบพบหน้ากันที่ตุรกีในวันนี้ (29 มี.ค.)