คลัง ยื้อ ปรับกรอบเงินเฟ้อ เผยขอคุยแบงก์ชาติก่อน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่า เงินเฟ้อทั้งปี 65 จะเกินกว่ากรอบ 1% - 3% ที่ตั้งไว้ โดยขึ้นอยู่ที่ 4.9% และในช่วงไตรมาส 2 และ 3 มีโอกาสที่เงินเฟ้อจะพุ่งไปถึง 5% นั้น

ในส่วนของกระทรวงการคลัง ยังต้องดูและทบทวนสถานการณ์อีกครั้ง ว่าเป้าหมายในระยะสั้นที่ได้รับผลกระทบนั้น มาจากเรื่องราคาน้ำมัน และราคาอาหาร จะมีผลกระทบต่อดัชนีราคาสินค้าเพียงใด

ซึ่งหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีขึ้น ก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีเฉลี่ยแล้วไม่เกิน 3% แต่ทั้งนี้ในระยะสั้นเงินเฟ้ออาจหลุดกรอบไปบ้าง แต่หากทั้งปียังอยู่ในกรอบที่ 1% - 3% คลังก็คงไม่มีมาตรการอะไรออกมาเพื่อดูแลเพิ่มเติม

"การขยายกรอบอัตราเงินเฟ้อต้องหารือกับ ธปท. เพราะเป็นเรื่องของการเงินการคลัง ซึ่งต้องมาคุยกันว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงจะยาวนานแค่ไหน ที่จะทำให้เงินเฟ้อของไทยเกินกรอบทั้งปี ที่ตั้งไว้ 3% แต่ถ้าเป็นระยะสั้น อาจเกินกรอบไปบ้าง แต่ทั้งปีเฉลี่ยไม่ถึง 3% ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีการปรับกรอบอัตราเงินเฟ้อใหม่" นายอาคม กล่าว

ส่วนกรณีที่ ธปท. ประเมินว่าช่วงไตรมาส 2 และ 3 เงินเฟ้ออาจถึง 5% นั้น ก็ต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง รวมทั้งประเมินสถานการณ์ ว่าหากเงินเฟ้อยังคงสูง จากราคาพลังงาน ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะเรื่องของราคาอาหารสัตว์ หากจัดการได้เร็ว ก็จะช่วยให้ราคาสินค้าไม่เพิ่มสูง แต่ทั้งนี้ ไตรมาส 2 อาจยังมีผลกระทบต่อเนื่อง ส่วนไตรมาส 3 ยังไม่แน่ใจ แต่ไตรมาส 4 สถานการณ์จะทุเลาลง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังคาดการณ์ไม่ได้ คือ สถานการณ์ในยุโรป ซึ่งหากสถานการณ์ราคาน้ำมันพุ่งสูงถึง 150 เหรียญต่อบาร์เรล ก็จะได้รับผลกระทบหมดทุกประเทศ และเมื่อถึงเวลานั้นอาจต้องขอความกรุณาจากประชาชนแบ่งเบาภาระไปครั้งนึง แต่ทั้งนี้รัฐบาลก็จะยังช่วยดูแลอยู่