กสิกรไทย ปฎิเสธให้ข้อมูล อดีตไวยาวัจกรยักยอกเงินวัดบวรนิเวศวิหาร

03 เม.ย. 2565 | 10:35 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2565 | 18:19 น.

กสิกรไทยปฎิเสธให้ข้อมูล กรณีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัดบวรนิเวศวิหาร-วงในระบุ ปัจจุบัน “เนย" ทำงานกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศของเจ้าสัวรายใหญ่คนหนึ่ง อาศัยความสนิทและความไว้เนื้อเชื่อใจดำเนินการยักยอกเงิน

ตามที่  กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุม อดีตไวยาวัจกรวัดและลูกศิษย์“สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศ และวัดสาขา  สาเหตุอาศัยช่วงอาพาธรักษาตัว ปลอมแปลงเอกสารลายเซ็น โยกทรัพย์สินโดยอาศัยช่วงอาพาธรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นั้น

“ฐานเศรษฐกิจ”สอบถามไปยังธนาคารกสิกรไทย  โดยได้รับคำตอบจากทางส่วนงานที่ดูแลแจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูล    เนื่องจากเป็นข้อมูลของทางลูกค้า

 

 ปัจจุบัน นายเนย ทำงานอยู่กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศของเจ้าสัวรายใหญ่คนหนึ่ง อาศัยความสนิทและความไว้เนื้อเชื่อใจของคนรอบข้างสมเด็จพระวันรัต ดำเนินการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขา  

 

ซึ่งข้อมูลชุดนี้คณะกรรมการวัด ได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ  จนนำไปสู่ข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” และ “ปลอมแปลงเอกสาร” ในเบื้องต้นการยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาทที่โรงพยาบาล เนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์

 

 

“ในช่วงที่สมเด็จพระวันรัตท่านป่วย นายเนยได้เข้าไปเยี่ยมหลายครั้ง และมีการยักยอกเงินออกไปในช่วงนั้น  โดยนายเนยได้มีการปลอมบัญชีปลอมลายเซ็นของสมเด็จพระวันรัตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทยอยเบิกเงินอยากหยอกจากบัญชีออกไปคราวละ 30 ล้าน 80 ล้านบาท” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจ