ตามที่ กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุม อดีตไวยาวัจกรวัดและลูกศิษย์“สมเด็จพระวันรัต” ยักยอกเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศ และวัดสาขา สาเหตุอาศัยช่วงอาพาธรักษาตัว ปลอมแปลงเอกสารลายเซ็น โยกทรัพย์สินโดยอาศัยช่วงอาพาธรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นั้น
“ฐานเศรษฐกิจ”สอบถามไปยังธนาคารกสิกรไทย โดยได้รับคำตอบจากทางส่วนงานที่ดูแลแจ้งว่าไม่สามารถให้ข้อมูล เนื่องจากเป็นข้อมูลของทางลูกค้า
ปัจจุบัน นายเนย ทำงานอยู่กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ระดับประเทศของเจ้าสัวรายใหญ่คนหนึ่ง อาศัยความสนิทและความไว้เนื้อเชื่อใจของคนรอบข้างสมเด็จพระวันรัต ดำเนินการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศและวัดสาขา
ซึ่งข้อมูลชุดนี้คณะกรรมการวัด ได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ จนนำไปสู่ข้อกล่าวหา “ฉ้อโกง” และ “ปลอมแปลงเอกสาร” ในเบื้องต้นการยักยอกทรัพย์เกิดขึ้นครั้งใหญ่ ในช่วงที่ สมเด็จพระวันรัต เข้ารับการรักษาอาการอาพาทที่โรงพยาบาล เนยเป็นไม่กี่คนที่สามารถเข้า-ออก ห้องรักษาตัวได้อย่างสนิทใจ แต่กลับพบว่าเป็นการเข้าไปดำเนินการยักยอกทรัพย์
“ในช่วงที่สมเด็จพระวันรัตท่านป่วย นายเนยได้เข้าไปเยี่ยมหลายครั้ง และมีการยักยอกเงินออกไปในช่วงนั้น โดยนายเนยได้มีการปลอมบัญชีปลอมลายเซ็นของสมเด็จพระวันรัตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวงเงินเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทยอยเบิกเงินอยากหยอกจากบัญชีออกไปคราวละ 30 ล้าน 80 ล้านบาท” แหล่งข่าวให้ข้อมูลกับฐานเศรษฐกิจ